นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจการใช้จ่ายในช่วงวันลอยกระทง 2563 กลุ่มตัวอย่าง 1,222 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.7 วางแผนไปลอยกระทง แต่ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีร้อยละ 36.3 ไม่คิดไปลอยกระทง โดยมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี กลัวอันตรายจากการชุมนุมและโควิด-19 ส่งผลต่อเงินสะพัดในช่วงวันลอยกระทงปีนี้ขยายตัวติดลบร้อยละ 1.5 โดยมีมูลค่าเงินสะพัดเพียง 9,429 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2555
แม้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปี ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน แต่ไม่ได้มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย รัฐบาลยังจำเป็นต้องมีการอัดฉีดงบประมาณการลงทุน เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ แต่เวลานี้สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น โดยมองว่าการฟื้นตัวอาจล่าช้าไปอยู่ในช่วงไตรมาส 3 จากเดิมศูนย์พยากรณ์ฯ มองว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 แต่หากการชุมนุมยืดเยื้อจนถึงสิ้นปีจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจทำให้ติดลบมากขึ้น เนื่องจากการเมืองจะทำให้ยอดขาย กำลังซื้อ รวมถึงการจ้างงานภายในประเทศแย่ลง หากมีผลจากการชุมนุมที่รุนแรง
นอกจากนั้น ความไม่สงบภายในประเทศยังมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ รวมถึงกำลังซื้อของประชาชนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปีไม่เห็นผลเท่าที่ควร อาจทำให้มีการชะลอการใช้จ่าย ไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทางศูนย์พยากรณ์ฯ ยังคงประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ติดลบร้อยละ 7.5-8.5 และเศรษฐกิจปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 หรือเฉลี่ยเติบโตร้อยละ 4