ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ของแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. และขอแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเปิดเผยว่า ทั้ง 2 กลุ่ม มีนักศึกษามหาวิยาลัยฯ เข้าร่วม โดยทั้ง 2 กลุ่มไม่ได้แจ้งขออนุญาตใช้สถานที่ชุมนุมจากมหาวิทยาลัย แต่ถึงแม้ไม่ได้มีการขออนุญาต ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ปิดกั้น
วานนี้ หลังจากที่ทราบว่าจะมีการชุมนุมของทั้ง 2 ฝ่าย ตนได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับทั้ง 2 กลุ่ม ให้จัดกิจกรรมต่างช่วงเวลากัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเผชิญหน้า โดยเข้าไปคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมปกป้องสถาบันก่อน แต่ได้รับการปฏิเสธ ส่วนกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ให้ความร่วมมือย้ายสถานที่จัดกิจกรรมจากบริเวณลานพ่อขุนไปที่หน้าตึกอธิการบดีแทน โดยทั้ง 2 ฝ่าย รับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง แต่ก็เกิดเหตุความรุนแรงขึ้น ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงขอชี้แจงดังต่อไปนี้
1. มหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง และขอตำหนิกลุ่มบุคคลที่กระทำการดังกล่าว
2. มหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษา
3. มหาวิทยาลัยรามคำแหงขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในหลักสันติ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพและจัดกิจกรรมทางการเมืองในกรอบกฏหมาย
4. มหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย หรือความช่วยเหลืออื่นใดแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื้อ 21 ตุลาคม 2563
5. มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากพบว่ามีบุคลากรของมหาวิทยาลัยเจ้าไปเกี่ยวข้อง จะดำเนินการทางวินัยอย่างเคร่งครัด
6. มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีความห่วงใยในสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้น ยึดมั่นในหลักการสันติ และให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ในความคิดเห็นที่แตกต่างของประชาชน
นอกจากนี้ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ยังขอให้สื่อมวลชน หรือผู้ใดที่มีคลิปหลักฐานว่าผู้ใดเป็นคนก่อเหตุทำร้ายผู้อื่น ให้ส่งภาพคลิปดังกล่าวให้กับมหาวิทยาลัยฯ เพื่อนำไปใช้แจ้งความดำเนินคดี
ส่วนคำถามที่ว่า เหตุใดจึงอนุญาตให้มีการจัดชุมนุมของทั้ง 2 กลุ่มในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ให้คำตอบว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ไม่ปิดกั้น หรือจำกัดสิทธิการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มใด ทำได้เพียงประสานตำรวจมาดูแล และขอความร่วมมือผู้ชุมนุมไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งในเบื้องต้นทั้ง 2 กลุ่มรับปากแล้ว
ส่วนกรณีสอบสวนว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น มีบุคลากรของมหาวิทยาลัยฯ เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น หากสอบสวนพบว่ามีก็จะต้องมีการลงโทษทางวินัย ซึ่งก็มีตั้งแต่โทษไม่ร้ายแรง ไปจนถึงโทษร้ายแรง
ด้าน ดร.โยธิน ไพรพนานนท์ ผู้อำนวยการกองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่าตามระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ นักศึกษาและศิษย์เก่า สามารถจัดกิจกรรมภายในหมาวิทยาลัยได้ โดยที่ต้องจัดทำเป็นโครงการเสนอขออนุมัติใช้สถานที่เข้ามาก่อน หากเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับนักศึกษาทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ขัดข้อง