นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม - 5 ตุลาคม 2563 มีประชาชนส่งข้อมูลแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับสื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ผิดกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผ่านเพจ "อาสา จับตา ออนไลน์" แล้ว จำนวน 14,223 รายการ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการแจ้งซ้ำเรื่องเดียวกัน เหลือเพียง 2,950 รายการ ที่เข้าข่ายผิดข้อกฎหมาย แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 2,183 รายการ ยูทูป 388 รายการ ทวิตเตอร์ 153 รายการ TikTok 10 รายการ และเว็บไซต์อื่นๆ 216 รายการ ซึ่งได้ดำเนินเรื่องยื่นศาลขอปิดกั้นแล้ว 2,665 รายการ อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องอีก 64 รายการ และอยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 221 รายการ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล พนันออนไลน์ และลิขสิทธิ์
ทั้งนี้ จากการยื่นเรื่องขอปิดกั้นสื่อออนไลน์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย พบว่าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้ปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย หากไม่ยอมปฏิบัติตามภายใน 15 วัน จะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ ระวางโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละ 5 พันบาท จนกว่าจะยอมแก้ไข
รองปลัดกระทรวงดีอีเอส ย้ำว่า กระทรวงฯ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวดกับผู้ที่กระทำผิด ดังนั้น หากมีการดำเนินเรื่องขอให้ปิดกั้นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือกับทุกแพลตฟอร์มให้ปฏิบัติตามในการปิดกั้นเนื้อหาทันที
ทั้งนี้ จากการยื่นเรื่องขอปิดกั้นสื่อออนไลน์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย พบว่าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้ปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย หากไม่ยอมปฏิบัติตามภายใน 15 วัน จะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ ระวางโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละ 5 พันบาท จนกว่าจะยอมแก้ไข
รองปลัดกระทรวงดีอีเอส ย้ำว่า กระทรวงฯ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวดกับผู้ที่กระทำผิด ดังนั้น หากมีการดำเนินเรื่องขอให้ปิดกั้นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือกับทุกแพลตฟอร์มให้ปฏิบัติตามในการปิดกั้นเนื้อหาทันที
