นายนันทชัย ปัญญาสุรสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส. กล่าวในการแถลงข่าวฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีแก่ผู้มีสิทธิประกันสังคม ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายให้ สปส. ทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างทันท่วงที ซึ่งในปีนี้มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องมีการคัดกรองผู้ป่วยมากขึ้น องค์การอนามัยโลกจึงมีคำแนะนำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้กับประชากรของประเทศตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดการเจ็บป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่ และเพื่อประโยชน์ในการคัดกรองโควิด-19 ด้วย เพราะ 2 โรคนี้เป็นกลุ่มโรคติดต่อทางเดินหายใจเช่นเดียวกัน
ดังนั้น บอร์ด สปส. จึงมีมติให้ดำเนินการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ให้กับผู้ประกันตนในมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1.9 ล้านคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม - 31 ธันวาคมนี้ โดยผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลที่มีสิทธิอยู่ และดำเนินการกรอกเอกสารคัดกรองตามมาตรฐานสาธารณสุข ซึ่งบางสถานพยาบาลที่มีการสำรองวัคซีนเพียงพอก็สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนให้ทันทีเลย แต่บางสถานพยาบาลที่อาจจะมีวัคซีนสำรองไม่เพียงพอก็อาจจะมีการนัดหมายให้ผู้ประกันตนมาฉีดในครั้งต่อไป หากประชาชนมีข้อข้อสงสัย ทาง สปส. ได้เปิดสายด่วน 10 คู่สายไว้รองรับ คือ 02-956-2500 ถึง 2510
นายนันทชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละปีมีรายงานผู้ประกนตนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เฉลี่ย 20,000 คนต่อปี ต้องนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 3 วัน มีค่ารักษาเฉลี่ย 15,000 บาทต่อคน ซึ่งเมื่อเกิดการเจ็บป่วยส่งผลกระทบต่อการทำงาน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการได้รับวัคซีนป้องกันโรคจึงช่วยเรื่องสุขภาพของผู้ประกันตน และเศรษฐกิจของประเทศได้ โดยในปี 2564 สปส. จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย ส่วนผู้ประกันตนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ เช่น คนที่มีโรคเรื้อรังนั้น จะรับไว้หารือในบอร์ด สปส. ต่อไป