xs
xsm
sm
md
lg

'หมอเหรียญทอง'ติง สปสช.ก่อนยกเลิกคู่สัญญาบัตรทอง ควรเตรียมพร้อมรองรับดีกว่านี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า เรียนผู้ใช้บริการสิทธิบัตรทอง ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ เพื่อโปรดทราบทั่วกันว่าสถานการณ์ผู้ใช้บริการสิทธิบัตรทองจำนวนมากจนแออัดในอาคารหลังใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้เกิดจากผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจากคลีนิค และ รพ.ต่างๆ จำนวนมากที่ถูกยกเลิก โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 17 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ได้หลั่งไหลเข้ามายัง รพ.มงกุฎวัฒนะ

สถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าจะทวีปัญหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับตั้งแต่วันนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งยังจะถูกสมทบเพิ่มขึ้นจากผู้ป่วยบัตรทองจำนวนมากที่ล้นหลามจากการขึ้นทะเบียนกับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.และ รพ.รัฐ ที่หนีความแออัดจากสถานพยาบาลรัฐมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะอีก และยังไม่นับรวมกับปัญหาเตียงรับผู้ป่วยใน[In-Patient] ที่ต้องรับตัวผู้ป่วยเข้ารักษาตัวใน รพ.ซึ่งแต่เดิมก็มีอัตราครองเตียงเต็มเกือบ 100%อยู่แล้ว

ดังนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะจึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยประกาศให้ทราบทั่วกันดังต่อไปนี้

1. รพ.มงกุฎวัฒนะจะจำหน่ายผู้ป่วยใน(In-Patient)ที่สามารถกลับบ้านได้ตลอดเวลา ทั้งภาคเช้า ภาคเย็น และภาคค่ำ เพื่อให้สามารถหมุนเตียงในการรับผู้ป่วยใหม่ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุดให้สามารถรับผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องรับตัวผู้ป่วยเข้ารักษาตัวใน รพ.ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ ดังนั้นผู้ป่วยในที่สามารถกลับบ้านได้แล้ว ญาติจะต้องให้ความร่วมมือด้วยการรีบรับผู้ป่วยกลับบ้านโดยเร็วเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยรายอื่นๆที่รอเตียงอยู่สามารถเข้านอนใน รพ.ได้โดยเร็ว มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาผู้ป่วยนอนรอจำนวนมากเสียโอกาสในการรักษา

2. รพ.มงกุฎวัฒนะจะขยายเวลาทำการตรวจโรคผู้ป่วยนอก(Out-Patient) ทั้งคลีนิคเวชปฏิบัติทั่วไป และคลีนิคเฉพาะทางให้สามารถกระจายความแออัดหนาแน่นของกลุ่มงานผู้ป่วยนอกโดยจะขยายเวลาทำการไปจนถึง 24.00 น.ไม่มีวันหยุด และจะขยายเวลาทำการคลีนิคเวชปฏิบัติทั่วไป(General Practice)ให้ทำการได้ตลอด 24 ชั่วโมง แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปและแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ ที่สนใจงาน OPD จนถึงเที่ยงคืนและหลังเที่ยงคืนจนถึงเช้า สามารถติดต่อได้ที่ 02-574-5000 ต่อแผนกบุคคล (รุ่ง ศรีสุข) หรือต่อ 8800 (พรพรรณ พัดใย)

3. การแก้ปัญหาของ สปสช.ก่อนที่จะยกเลิกคู่สัญญาควรมีความละเอียดรอบคอบให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการและหน่วยบริการที่หลงเหลืออยู่ การแก้ปัญหาอย่างบุ่มบ่าม ไม่มีการหารือ เพื่อเตรียมการให้พร้อมรองรับสถานการณ์ยกเลิกคลีนิคจำนวนมากซึ่งเป็นหน่วยในระดับปฐมภูมิของระบบสาธารณสุข และ รพ.ซึ่งเป็นหน่วยในระดับทุติยภูมิจะส่งผลต่อฐานรากของระบบสาธารณสุขจนทำให้ รพ.ในระดับทุติยภูมิและตติยภูมิที่หลงเหลือต้องลงมาเผชิญปัญหาการบริการแพทย์ในระดับปฐมภูมิเอง สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนจำนวนมาก บริหารงานอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะครับ แย่มาก