วันนี้ (12 ก.ย.) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี ติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง และการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในช่วงฤดูฝนปี 2563
ทั้งนี้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้ 57 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เพาะปลูกพืชไปแล้ว 1,260,679 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 61 ของแผน
สำหรับการบริหารจัดการน้ำหลากช่วงฤดูฝนนั้น จะใช้คันกั้นน้ำริมคลองส่งน้ำ คันกั้นน้ำแม่น้ำลพบุรี และคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อปัองกันน้ำท่วม พร้อมตัดยอดน้ำจากด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ปริมาณ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองชัยนาท-อยุธยา ปริมาณ 65 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเข้าแม่น้ำลพบุรี ปริมาณ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคลองบางแก้ว 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมทั้งผันน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 แห่ง รองรับได้ 544 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อหน่วงน้ำไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนล่าง พร้อมกำหนดจุดเสี่ยงและเร่งกำจัดวัชพืชตามลำน้ำเพื่อให้ระบายน้ำได้ดี
ทั้งนี้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้ 57 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เพาะปลูกพืชไปแล้ว 1,260,679 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 61 ของแผน
สำหรับการบริหารจัดการน้ำหลากช่วงฤดูฝนนั้น จะใช้คันกั้นน้ำริมคลองส่งน้ำ คันกั้นน้ำแม่น้ำลพบุรี และคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อปัองกันน้ำท่วม พร้อมตัดยอดน้ำจากด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ปริมาณ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองชัยนาท-อยุธยา ปริมาณ 65 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเข้าแม่น้ำลพบุรี ปริมาณ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคลองบางแก้ว 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมทั้งผันน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 แห่ง รองรับได้ 544 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อหน่วงน้ำไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนล่าง พร้อมกำหนดจุดเสี่ยงและเร่งกำจัดวัชพืชตามลำน้ำเพื่อให้ระบายน้ำได้ดี