นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อขอขยายเวลาการจัดทำมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ต่อออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 จากเดิมสิ้นสุดตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งมาตรตการดังกล่าวจะช่วยลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้แก่ประชาชน ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้ ยังเป็นการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากขึ้นด้วย คาดว่า รฟท. จะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาภายในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม การปรับลดค่าโดยสารดังกล่าว ปรับลดเฉพาะนอกช่วงเวลาเร่งด่วน (Off Peak Hour) วันจันทร์-ศุกร์ 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 05.30-07.00 น., 10.00-17.00 น. และ 20.00-24.00 น. ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) จากอัตราค่าโดยสารปกติ 15-45 บาท เหลือ 15-25 บาท โดยจะคิดอัตราค่าโดยสารสถานีแรก 15 บาท สถานีที่สอง 20 บาท และสถานีที่ 3 เป็นต้นไปคิดค่าโดยสาร 25 บาท ซึ่งการปรับลดค่าโดยสารช่วงที่ผ่านมา รายได้ของ รฟท. ลดลงเฉลี่ยเดือนละ 3.5 แสนบาท
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ในปี 2564 จะครบรอบ 10 ปี การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ดำเนินงานยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารมาโดยตลอด รวมทั้งไม่เคยปรับขึ้นค่าโดยสาร ยังคงเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 15-45 บาท มาตลอด 9 ปี ทั้งที่ตามปกติแล้วอัตราโดยสารจะถูกปรับขึ้นทุกๆ 5 ปี ตามค่าครองชีพ แต่แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ก็ไม่เคยปรับขึ้น เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสารประจำปี 2563 พบว่า ผู้โดยสารมีความพึงพอใจในการให้บริการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อยู่ในระดับดีมาก โดยด้านการให้บริการได้ 4.33 คะแนนเต็ม 5 ส่วนด้านความน่าเชื่อถือของการเดินรถได้ 4.23 และด้านความปลอดภัยได้ 4.36
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดให้บริการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 185 ล้านคน คาดว่าจะทะลุ 200 ล้านคน ภายในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันผู้โดยสารเริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรควิด-19 โดยขณะนี้ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 57,000 คนต่อวัน ซึ่งยังน้อยกว่าช่วงปกติที่ยังไม่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 90,000 คนต่อวัน