นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 31.8 ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเอกชนยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการชุมชนของกลุ่มเยาวชน ความกังวลสถานการณ์ระบาดโควิด-19 และข่าวลือต่าง ๆ การขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่บางธุรกิจยังไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ การส่งออกยังคงหดตัวต่อเนื่อง หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น การชะลอการผลิตสินค้าและคนตกงานหรือถูดลดชั่วโมงการทำงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการหอการค้าได้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหา เช่น กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวและเน้นการเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รายได้สูง พิจารณา Travel Bubble ในกลุ่มประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสได้ มาตรการช่วยเหลือด้านการเงิน เนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อตามมตรการของรัฐได้ พัฒนาทักษะและมาตรฐานแรงงานให้มีความหลากหลายและตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการให้มากขึ้น พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ทัดเทียมกับเมืองใหญ่ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการประท้วงทางการเมืองนั้น ทางศูนย์ ฯ อยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นประเมินว่านักธุรกิจกังวลเรื่องของการระบาดโควิด-19 รอบสองมากกว่า หลังจากที่ตรวจพบคนไทยติดโควิด-19 ในประเทศ จนกลายเป็นเหตุแตกตื่นทั่วประเทศ เพราะหากมีการระบาดในไทยจริงอาจเกิดการล็อกดาวน์ซึ่งจะกระทบให้ธุรกิจต้องสูญเสียรายได้จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทางการเมืองตอนนี้ยอมรับว่าจะมีผลกระทบต่อจิตวิทยา โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศบางส่วนคงพิจารณาการลงทุนใหม่ แต่หากเหตุการณ์บานปลายก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจหนักเหมือนกัน แต่ก็ไม่เท่ากับความกังวลเรื่องของโควิด-19 รอบสอง