บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA (สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ) และบริษัทย่อย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดย BA ขาดทุน 2,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนอยู่693 ล้านบาท อันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัท ฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 800.4 ล้านบาท ลดลง 85.8% หากเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 5,645.9 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลงจาก 6,607.4 ล้านบาท เป็น 3,705.5 ล้านบาท หรือลดลง 43.9 %
สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2563 บริษัท ฯ หยุดทำการบินชั่วคราวตามนโยบายภาครัฐและประกาศของสำนักงานการบินพลรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563
ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้กลับมาทำการบินในเส้นทางภายในประเทศ โดยได้เริ่มเปิดดำเนินการบินเส้นทางกรุงเทพ-สมุย ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 และบินเพิ่มเติมในเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ-สุโขทัย และกรุงเทพ-ลำปาง ในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งได้ปรับแผนเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบินให้เหมาะสมกับความต้องการเดินทาง ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัท ฯ มีจำนวนผู้โดยสารลดลง 97.8% โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 47.3%
ขณะที่การดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัท ฯ มีขาดทุนสุทธิจำนวน 3,332.8 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จำนวน 3, 145.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท ฯ เท่ากับ 3,313.4 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัท ฯ มีรายได้รวมจำนวน 7,352.1 ล้ำนบาท ลดลง 47.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากรายได้ของธุรกิจสายการบินปรับตัวลดลง 54.5% ธุรกิจสนามบินลดลง 52.8% และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องลดลง 45.2%
ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้มีการลดปรับพนักงานใน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (BAC) บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS Ground) และ บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก จำกัด (WFS-PG Cargo) ทั้ง 3 แห่ง ได้มีมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยดี อาทิ การจัดการด้านบุคลากร ได้แก่ การปรับลดเงินเดือนของผู้บริหารและพนักงาน การยกเลิกการจ้างและการปรับลดจำนวนพนักงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นต้น โดย BAC ได้มีการปรับลดจำนวนพนักงานลง 30% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด BFS Ground ได้มีการปรับลดจำนวนพนักงานลง 70% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และ WFS-PG Cargo ปรับลดจำนวนพนักงานลง 15% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัท ฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 800.4 ล้านบาท ลดลง 85.8% หากเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ที่มีรายได้อยู่ที่ 5,645.9 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลงจาก 6,607.4 ล้านบาท เป็น 3,705.5 ล้านบาท หรือลดลง 43.9 %
สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2563 บริษัท ฯ หยุดทำการบินชั่วคราวตามนโยบายภาครัฐและประกาศของสำนักงานการบินพลรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563
ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้กลับมาทำการบินในเส้นทางภายในประเทศ โดยได้เริ่มเปิดดำเนินการบินเส้นทางกรุงเทพ-สมุย ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 และบินเพิ่มเติมในเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ-สุโขทัย และกรุงเทพ-ลำปาง ในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งได้ปรับแผนเส้นทางบินและจำนวนเที่ยวบินให้เหมาะสมกับความต้องการเดินทาง ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัท ฯ มีจำนวนผู้โดยสารลดลง 97.8% โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 47.3%
ขณะที่การดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัท ฯ มีขาดทุนสุทธิจำนวน 3,332.8 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จำนวน 3, 145.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท ฯ เท่ากับ 3,313.4 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัท ฯ มีรายได้รวมจำนวน 7,352.1 ล้ำนบาท ลดลง 47.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากรายได้ของธุรกิจสายการบินปรับตัวลดลง 54.5% ธุรกิจสนามบินลดลง 52.8% และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องลดลง 45.2%
ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้มีการลดปรับพนักงานใน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (BAC) บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS Ground) และ บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก จำกัด (WFS-PG Cargo) ทั้ง 3 แห่ง ได้มีมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยดี อาทิ การจัดการด้านบุคลากร ได้แก่ การปรับลดเงินเดือนของผู้บริหารและพนักงาน การยกเลิกการจ้างและการปรับลดจำนวนพนักงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นต้น โดย BAC ได้มีการปรับลดจำนวนพนักงานลง 30% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด BFS Ground ได้มีการปรับลดจำนวนพนักงานลง 70% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และ WFS-PG Cargo ปรับลดจำนวนพนักงานลง 15% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
