เฟซบุ๊ก ไขปัญหากับอายุรแพทย์ โดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์ระบุว่า เมื่อหมอติด COVID คุณหมอออฟ หรือ นพ.ภัทรพล หมอไทยที่ทำงานใน รพ.แห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาในฐานะอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ เริ่มมีไข้ 38.6 C หนาวสั่น ไม่ได้กลิ่น ไม่สามารถรับรู้รส แน่นอนครับ อาการแบบนี้ แถมมีประวัติใกล้ชิดกับคนไข้ COVID วันละหลายๆ เคส คงหนีไม่พ้นว่าเป็น COVID แน่ๆ และผลตรวจยืนยันตามนั้น
เพื่อนหลายบอกให้คุณหมอออฟ รีบได้ยาที่ดีที่สุด เร็วที่สุด และได้นอนโรงพยาบาลเร็วที่สุด ก่อนที่จะเป็นมาก
คุณหมอตอบว่า “ตามมาตรฐานการรักษา COVID ที่อเมริกา คือ ถ้าคนไข้มีอาการแบบที่ตัวเองเป็นขณะนี้ (ไข้ 38.6 มา 3-4 วัน หนาวสั่น จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส) ปกติจะให้คนไข้กลับไปอยู่ที่บ้าน อย่าใกล้ชิดคนอื่น (self quarantine) ยังไม่ให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสหรือนอนโรงพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น”
จากการโทรพูดคุย คุณหมอยังตอบด้วยเสียงสั่นๆ เพราะไข้สูงว่า “เราเป็นหมอ ดูแลคนไข้ COVID โดยตรง ถ้าตัวหมอเอง ไม่ทำตามมาตรฐานการรักษา แล้วหมอจะไปบอกคนไข้ให้เค้าทำตามได้อย่างไร ถ้าเราเอาตัวเองนอนที่โรงพยาบาล แล้วจะไปบอกคนไข้คนอื่นๆ ที่มีอาการแบบเดียวกันให้กลับบ้านได้หรือ”
จริงของคุณหมอ
มาตรฐานทุกอย่างที่ถูกกำหนดออกมาใช้ ควรมีเพียงมาตรฐานเดียวที่ถูกนำมาใช้กับคนทุกคน หากมีกลุ่มคนที่มีสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น แล้วมีมาตรฐานที่เหนือกว่า โดยคนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องทำตามมาตรฐานส่วนรวม แบบนี้เราเรียกว่า สองมาตรฐาน (double standards)
เรารู้กันดีถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อนี้ และเชื่อว่าคุณหมอก็คงกลัว แต่คุณหมอไม่ยอมให้ความกลัว มาอยู่เหนือมาตรฐานการรักษา
ตั้งแต่มี COVID ในอเมริกา คุณหมอออฟไม่เคยได้หยุดงาน ไปโรงพยาบาลทุกวัน และหลังจากทราบว่าตนเองเป็น COVID คุณหมอก็กักตัวเองอยู่ที่บ้าน เวลาไลน์คุยก็จะเห็นคุณหมอนั่งสั่นไป ทำงานดูแลคนไข้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตไป ทุ่มเทรักษาคนไข้และรักษาตนเองบนมาตรฐานเดียวกัน
ตอนนี้คุณหมอออฟหายดีและกลับไปทำงานตามปกติแล้ว ที่สำคัญคุณหมอมีภูมิคุ้มกัน COVID แล้ว ยอมใจในความเข้มแข็ง แน่วแน่ ของคุณหมอครับ