กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ในบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบถึง 4 สิงหาคม 2563) ฉบับที่ 2 วันนี้ (1 ส.ค.) ว่า เมื่อเวลา 04.00 น. พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคมนี้ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 1 - 4 สิงหาคมนี้ โดยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่วนพื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้
วันที่ 1 ส.ค. ภาคเหนือ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
วันที่ 2 ส.ค. ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ภาคกลาง ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
วันที่ 3 - 4 ส.ค. ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 1 - 4 สิงหาคมนี้ โดยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่วนพื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้
วันที่ 1 ส.ค. ภาคเหนือ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
วันที่ 2 ส.ค. ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ภาคกลาง ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
วันที่ 3 - 4 ส.ค. ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด