คณะวิจัยมหาวิทยาลัยโมนาชเผยแพร่บทความในวารสารเอซีเอส เซ็นเซอร์วันนี้ ว่า มาตรการระยะสั้นในขณะนี้คือ เร่งระบุตัวผู้ป่วยและติดตามผู้ใกล้ชิด เพื่อจำกัดการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่วนมาตรการระยะยาว คือตรวจคัดกรองประชาชนในวงกว้าง เพื่อกำหนดขอบเขตการติดเชื้อในชุมชน พวกเขาใช้น้ำเหลือง หรือพลาสมาเพียง 25 ไมโครลิตร จากตัวอย่างเลือด ไปตรวจดูว่ามีการเกาะกลุ่มของเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ สามารถตรวจได้พร้อมกันหลายร้อยตัวอย่างในแต่ละชั่วโมง รู้ผลใน 20 นาที ว่ากำลังติดเชื้ออยู่หรือเคยติดเชื้อมาแล้วหรือไม่ ต่างจากการตรวจหาเชื้อในปัจจุบันที่ใช้วิธีตรวจจากโพรงจมูกและคอ (swab test)
คณะนักวิจัยคาดหวังว่าวิธีนี้จะสามารถตรวจหาสารภูมิต้านทาน หรือแอนติบอดี ที่เกิดจากการได้รับวัคซีนเพื่อช่วยการทดลองทางคลินิกวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่หลายฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ คณะนักวิจัยได้ยื่นจดสิทธิบัตรแล้ว และกำลังขอการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 13.8 ล้านคนทั่วโลก คร่าชีวิตไปเกือบ 600,000 คน เฉพาะในออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อกว่า 11,000 คน เสียชีวิต 116 คน
