พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันถึงความจำเป็นในการขยายเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ว่า ทุกอย่างมีเหตุผลและความจำเป็นอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการปิดกั้นการชุมนุม แต่ขอให้เข้าใจเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ไม่ต้องการให้เกิดการรวมกลุ่มเพราะเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนการผ่อนปรนให้กิจการอาบ อบ นวด กลับมาเปิดให้บริการนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องคำนึงว่าจะสามารถสร้างความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ และผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจนี้อย่างไร และสิ่งสำคัญคือต้องไม่ให้มีการค้าประเวณี พร้อมย้ำว่า การผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 5 เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมในการรับความเสี่ยง ซึ่งทุกอย่างมีกฎหมายรองรับไว้หมดแล้ว แต่อยู่ที่ว่าทุกคนจะร่วมมือป้องกันความเสี่ยงนี้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ทั่วโลกยังรุนแรง แม้ในประเทศจะพบผู้ติดเชื้อเฉพาะที่อยู่ในสถานกักกัน แต่เราจะประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม