นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว หมอแก้ว ผลิพัฒน์ ระบุถึงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ในกิจการที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อาบอบนวด ผับ บาร์ คาราโอเกะ ว่า ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง 5 เรื่อง ดังนี้
1. ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็จะยังมีโอกาสกลับมาพบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว แม้เราจะมีวัคซีนมาใช้แล้ว เราก็จะมีการเกิดโรคในประเทศได้อยู่ดี และสุดท้ายโควิด-19 (มีโอกาสสูง) ที่กลายเป็นโรคประจำถิ่น ดังนั้น เป้าหมายของเราคงจะไม่ใช่การทำให้เราไม่พบผู้ป่วยเลยไปตลอดกาล ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บรรลุได้ยาก และต้องลงทุนสูง
การกลับมาพบผู้ป่วยใหม่เป็นจำนวนไม่มากนัก และไม่รุนแรงจนถึงขั้นที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง จึงไม่ใช่ความล้มเหลวหรือเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด สิ่งที่ควรทำจึงเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์
2. การควบคุมโรคจึงต้องคำนึงถึงการแก้ปัญหาระยะสั้น และระยะยาว ทุกประเทศต้องหาทางสายกลางของตัวเองให้เจอ ทางสายกลางที่จะทำให้เรามีผู้ป่วยน้อยที่สุด ไม่เกินระดับที่เรารับได้ และยังคงสามารถทำให้วิถีชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม สามารถเดินไปได้
การทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงเกินไป จะกลับมามีผลกระทบต่อความมั่นคงในชีวิตและทรัพสินของประชาชนในระยะสั้น และส่งผลกระทบต่อสุขภาวะ (ทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย) ในระยะยาวอยู่ดี (เรารู้กันเป็นอย่างดีว่าสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อ) ที่สำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่ง) เราจึงไม่ควรคำนึงถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพียงอย่างเดียวจนถึงขั้นที่ยอมให้มีความสูญเสียสุขภาวะในระยะยาว
3. การผ่อนปรนให้มีการเปิดกิจการและธุรกิจโดยคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยงต่อไป ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีมากแล้ว อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาการผ่อนปรนกิจการและธุรกิจล้วนเป็นธุรกิจที่สำคัญและมีความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เรายังไม่ได้อนุญาตให้กลับมาเปิดดำเนินการได้ ความเป็นจริงถ้ามองในแง่ GDP เรายังเปิดธุรกิจและกิจการที่ปิดไปแล้วได้ไม่มากนัก
ในระยะต่อไป เราจะต้องมีสติ มีความเข้าใจ ค่อยๆ ทยอยเปิดกิจการตามความจำเป็นและความเสี่ยงต่อไป และควรมีมาตรการทั้งด้านการป้องกันและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม
ย้ำอีกครั้งครับ โรงเรียนควรได้เปิดก่อนสถานบันเทิง
4. สถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงไม่ใช่ตัวปัญหา ตราบใดที่เราสามารถทำให้สถานที่และธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงต่ำลงได้ ซึ่งต้องอาศัยทั้งความตั้งใจของทุกฝ่าย และความร่วมมือในระยะยาว ดังนั้น เจ้าของกิจการและภาคสาธารณสุขจะต้องออกข้อกำหนดให้สถานที่หรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้เจ้าของกิจการและลูกค้าสามารถปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสมต่อไป
5. ในระยะนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดำเนินการเฝ้าระวัง และการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องทำอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว ถูกต้องตามหลักวิชาการ อย่างครอบคลุมและครบถ้วน เพื่อให้เราสามารถค้นหาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวก็ควรติดตามสถานการณ์และเหตุการณ์ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิดด้วย