นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Watana Muangsook ระบุว่า การที่มนุษย์กลัวตายจากโควิด19 คือสาเหตุที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ทำให้กำลังซื้อในโลกและในประเทศหดตัว กิจการค้าและโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศต้องปิดตัวจะมีคนตกงานถึง 10 ล้านคน ส่วนภาคการเงินตามข้อมูลของ ธปท. ไตรมาสแรกปี 2563 มีสินเชื่อที่เรียกว่า “จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ” จำนวน 1.228 ล้านล้านบาท และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 493,135 ล้านล้านบาท นั่นคือภายในเดือนตุลาคมอาจเกิดหนี้เสียถึง 1.7 ล้านล้านบาท ทั้งหมดคือปัญหาที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญ
การแก้ปัญหาจะต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา เพราะหากแก้ทีละปัญหาก็จะไม่จบสิ้นและแก้ไม่ได้ รัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจที่จะกลับไปสู่ชีวิตปกติด้วยการขจัดความกลัวตายจากสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่บอกล่วงหน้า (random death) อันจะทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเช่นเดิม ดังนี้
(1) หยุดสร้างความหวาดกลัวและขจัดการกลัวตายของของประชาชนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
(2) ยกเลิกคำสั่งที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก
(3) สร้างบรรยากาศแห่งความชัดเจน (predicable environment) เพื่อให้ทุกคนวางแผนอนาคตได้
(4) สร้างความเชื่อมั่น (trust) และความมั่นใจ (confidence) ด้วยกระบวนการที่น่าเชื่อถืออันจะก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น การทำข้อตกลงการท่องเที่ยวกับประเทศที่มีการท่องเที่ยวกับเราเป็นจำนวนมาก เช่น จีน ญี่ปุ่น และประเทศทางยุโรป แบบพหุภาคี (multilateral) เพื่อกำหนดมาตรฐานด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศ
และ (5) อย่าปากพล่อยพูดอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น ตัวเองไม่เก่งเรื่องเศรษฐกิจ เป็นต้น
ระหว่างที่สถานการณ์ยังไม่กลับคืนสู่ความปกติ รัฐบาลมีหน้าที่จะต้องเยียวยาประชาชนต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งที่เป็นต้นเหตุ เลิกทำตัวเป็นนายทาสเลี้ยงดูไพร่เพราะฐานะทางการคลังของไทยไม่ได้เข้มแข็งเพียงพอที่จะเลี้ยงดูประชาชนไปได้ตลอดชีวิต รีบคืนชีวิตปกติให้กับประชาชน จากนั้นปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขด้วยตัวของมันเอง คำแนะนำข้างต้นผมไม่ได้คิดเองแต่เอามาจากอริยสัจ 4 ของพระพุทธเจ้า