ตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบมาตรการคลายล็อกกลุ่มกิจการและกิจกรรม ระยะที่ 3 รวมถึงการลดช่วงเวลาเคอร์ฟิวอีก 1 ชั่วโมง จากเดิม 23.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. และอนุญาตให้กลุ่มกิจกรรม จำนวน 2 กลุ่ม คือ กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การแสดงสินค้า เปิดให้บริการได้ถึง 21.00 น. ส่วนกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพและสันทนาการ อาทิ สถานเสริมความงาม สปา และโรงภาพยนตร์ สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด โดยคาดว่าเมื่อดำเนินการตามมาตรการคลายล็อกดังกล่าว จะส่งผลทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกวันละประมาณ 20,000-30,000 คน หรือวันละประมาณ 620,000-630,000 คน
ขสมก.จึงจัดแผนเดินรถโดยสาร ในช่วงมาตรการคลายล็อกระยะที่ 3 ดังนี้
1. จัดรถออกวิ่ง 95% (2,855 คัน/วัน) หรือจัดรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา
2. ปรับเวลาการให้บริการเดินรถโดยสาร จากเวลา 05.00-22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) เป็นให้บริการเวลา 04.00-22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) โดยเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (04.00-08.00 น.) และช่วงเวลาก่อนเคอร์ฟิว (21.00-22.00 น.) ให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 5-10 นาที
3. ปล่อยรถโดยสารคันสุดท้ายออกจากท่าปลายทางประมาณ 21.00 น. เพื่อให้พนักงานสามารถนำรถกลับเข้าอู่จอดรถได้ทันเวลา 22.00 น. โดยปรับเพิ่มความถี่ในช่วงการปล่อยรถ 3 คันสุดท้าย ให้มีระยะห่างกัน 5-10 นาที ซึ่งรถโดยสาร 3 คันสุดท้าย จะติดป้ายข้อความบ่งชี้บริเวณหน้ารถโดยสาร ดังนี้
3.1 เหลือรถ 2 คันสุดท้าย
3.2 เหลือรถ 1 คันสุดท้าย
3.3 รถคันสุดท้าย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการรถโดยสาร การนั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด (รถโดยสาร 1 คัน อนุญาตให้ผู้ใช้บริการยืนได้ไม่เกิน 10 คน) กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ เตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลา 19.00 น. เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบนรถโดยสารในช่วงเวลาก่อนเคอร์ฟิว (21.00-22.00 น.) ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถโดยสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ