ปรับเปลี่ยนเวลาให้บริการรถโดยสารประจำทาง ทุกประเภทจากเดิมเวลา 05.00 - 22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) เป็นเวลา 04.00 - 22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับมติที่ประชุมศบค. เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 ตามมาตรการคลายล็อกระยะที่ 3
วันนี้ (31 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เผยตตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ขสมก. ปรับเวลาเดินรถโดยสาร เริ่ม 1 มิ.ย. 63 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ปรับเปลี่ยนเวลาให้บริการรถโดยสารประจำทางทุกประเภท จากเดิมให้บริการ เวลา 05.00 – 22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) เป็นให้บริการ เวลา 04.00 – 22.00 น.(เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบมาตรการคลายล็อกกลุ่มกิจการและกิจกรรมระยะที่ 3 และลดช่วงเวลาเคอร์ฟิวจากเดิม 23.00 – 04.00 น. เป็น 23.00 – 03.00 น. โดยคาดว่าการคลายล็อกกลุ่มกิจการและกิจกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้มี ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 20,000 – 30,000 คน หรือวันละประมาณ 620,000 – 630,000 คน ซึ่ง ขสมก.ได้จัดแผนเดินรถโดยสารเพื่อรองรับการใช้บริการ ของประชาชน ดังนี้
1. จัดรถโดยสารให้บริการ 95 % (2,855 คัน/วัน) หรือจัดรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา
2. ปรับเวลาการให้บริการเดินรถโดยสาร จากเวลา 05.00 – 22.00 น. (เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) เป็นให้บริการ เวลา 04.00 – 22.00 น.(เวลา 22.00 น. คือเวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) โดยเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (04.00 – 08.00 น.) และช่วงเวลาก่อนเคอร์ฟิว (21.00 – 22.00 น.) ให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 5 – 10 นาที
3. ปล่อยรถโดยสารคันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทางประมาณ 21.00 น. เพื่อให้พนักงานสามารถนำรถกลับเข้าอู่จอดรถได้ทันเวลา 22.00 น. โดยปรับเพิ่มความถี่ในช่วงการปล่อยรถ 3 คันสุดท้าย ให้มีระยะห่างกัน 5 – 10 นาที และติดป้ายข้อความ “เหลือรถ 2 คันสุดท้าย” “เหลือรถ 1 คันสุดท้าย” และ “รถคันสุดท้าย” บริเวณหน้ารถโดยสาร 3 คันสุดท้าย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) สวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการ นั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด (รถโดยสาร 1 คัน อนุญาตให้ผู้ใช้บริการยืนได้ไม่เกิน 10 คน) กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เกี่ยวกับสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพติดตามได้ที่ http://www.mot.go.th/ โทร 02-283-3000 หรือ www.bmta.co.th สายด่วน 1348