พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดอันมีความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจส่งผลทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมารุนแรงขึ้นอีก
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยในสังกัดขับเคลื่อนนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยให้เจ้าหน้าที่มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ทหาร และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
จากการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายหลังจากมีมาตรการผ่อนปรนคลายล็อกระยะที่ 2 โดยได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยหน่วยร่วมปฏิบัติได้ออกตรวจกิจการและกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนคลายไปแล้วกว่า 100,000 แห่ง ในภาพรวมพบว่าส่วนใหญ่ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือดีและปฏิบัติตามข้อกำหนด แต่ยังมีกิจการบางประเภทที่ยังฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ มีการออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร และรวมกลุ่ม ชุมนุม มั่วสุม ในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อฯ จำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ แม้จะผ่อนปรนคลายล็อกระยะที่ 2 แต่ยังไม่ควรคลายกังวล ให้ปฏิบัติตามกฎหมายประกาศ ข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งความมีวินัยของทุกคนจะช่วยกันทำให้ผ่านพ้นวิกฤตของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้