xs
xsm
sm
md
lg

ร.10 พระราชทานห้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่สถาบันโรคทรวงอก-สถาบันบำราศนราดูร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วันนี้ 14 พ.ค.63 เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน "ห้องตรวจหาเชื้อ (Modlar Swab Unit)" ซึ่งเป็นหนึ่งใน "โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน" ที่พัฒนาขึ้นโดย SCG เพื่อรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้แก่สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อันเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 4 ที่ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modlar Swab Unit) โดยมีนายสมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี คณะผู้บริหาร ร่วมพิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว ณ โถงหน้าอาคาร 9 สถาบันโรคทรวงอก จังหวัดนนทบุรี

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่า นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modlar Swab Unit) ที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ลดความสิ้นเปลืองในการใช้ชุด PPE ให้กับบุคลาการทางแพทย์ผู้ปฎิบัติงานได้เป็นอย่างดี และช่วยปกป้องประชาชนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวริสโควิด-19 เพราะห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาขึ้นโดยเทคโนโลยีทันสมัยของ SCG HEIM และ Living Solution ที่ออกแบบให้มีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาดปลอดภัย มีระบบป้องกันอากาศรั่วไหลที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ภายในอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ขณะที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงได้มากขึ้น

“ห้องตรวจเชื้อความดันลบมีประโยชน์ต่อการทำงานของบุคลากรมาก เพราะในภาวะปกติการตรวจหาเชื้อนั้นมีความเสี่ยงสูงที่ผู้ป่วยจะไอจามใส่บุคลากรที่ทำการตรวจ ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคลากร ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อความดันลบนี้มีลักษณะรูปแบบการกั้นระหว่างบุคลากรและผู้ป่วย โดยเฉพาะห้องผู้ป่วยมีความเป็นแรงดันลบ ทำให้โอกาสที่เชื้อจะออกจากห้องน้อยลง และมีการฆ่าเชื้อในห้องด้วย UVC ปล่อยอากาศผ่านระบบการกรองที่ได้มาตรฐาน”

อีกทั้งห้องตรวจหาเชื้อนอกจากจะทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วแล้วสถาบันยังสามารถนำมาต่อยอดในการเก็บเสมหะผู้ป่วยโรคปอดอย่าง วัณโรค วัณโรคดื้อยา และวัณโรคดื้อยาหลายขนาด อันเป็นโรคติดต่อที่รักษายาก ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในบุคลากรสถาบันโรคทรวงอกต่อไป

ในวันเดียวกันนี้เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน "ห้องตรวจหาเชื้อ (Modlar Swab Unit)" ซึ่งเป็นหนึ่งใน "โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน" ที่พัฒนาขึ้นโดย เอสซีจี เพื่อรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้แก่สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อันเป็นโรงพยาบาลลำดับที่ 5 โดยมี นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์อภิชาติ วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันนำราศนราดู และนายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี ร่วมพิธี ณ ชั้นห้องประชุมชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ

นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า สถาบันบำราศนราดูรซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในสังกัดกรมควบคุมโรค มีหน้าที่ดูแลและรักษาคนไข้ โดยเฉพาะในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่จะมีคนไข้และผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเข้ามาตรวจ และรักษาเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เข้ามาใช้บริการต้องรอคอยนาน ดังนั้นการมีห้องตรวจหาเชื้อที่ได้รับพระราชทานนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกที่โรงพยาบาลมีได้เป็นอย่างดี และช่วยลดอัตราเสี่ยงการติดเชื้อของบุคลากรทาการแพทย์ได้เป็นอย่างดี ทำให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาต่อยอดในการเก็บเสมหะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่ง ที่ได้รับพระราชทานห้องตรจหาเชื้อ (Modlar Swab Unit) ได้แก่

1.รพ.ภูมิพลอดุลยเดซ กรมแพทย์ทหารอากาศ
2.รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
3.สถาบันบำราศนราดูร
4.รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
5.สถาบันโรคทรวงอก
6.รพ.ตำรวจ
7.รพ.กลาง
8.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
9.รพ.นครปฐม
10.รพ.ราชบุรี
11.รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก
12.รพ.พหลพลพยุหเสนา
13.รพ.อุตรดิตถ์
14.รพ.สวรรค์ประชารักษ์
15.รพ.นครพิงค์
16.รพ.อุดรธานี
17.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18.รพ.สุราษฎร์ธานี
19.รพ.สงขลานครินทร์
20. รพ.หาดใหญ่