พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการตรวจพบคนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อโควิด-19 จากการสัมผัสกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจในการใช้บริการรถแท็กซี่ ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ลดลง คนขับรถแท็กซี่มีรายได้ลดลง จนอาจทำให้สหกรณ์หรืออู่ที่ให้บริการเช่าแท็กซี่อาจต้องปิดกิจการไป วันนี้ (7 พ.ค.) พล.อ.ต.กิจสม พันธุ์โกศล รองเจ้ากรมช่างอากาศ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ มอบอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ในรถแท็กซี่ หรือ Taxi Bulkhead Barrier ให้แก่ สหกรณ์แท็กซี่ทองคำสุวรรณภูมิ อู่แท็กซี่บางซ่อน อู่แท็กซี่ประดิพัทธ์ อู่เจ๊อร พระราม 5 และบริษัท เอกราช ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งกองทัพอากาศได้จัดสร้างเป็นต้นแบบเพื่อนำไปผลิตเองในต้นทุนต่ำและติดตั้งใช้งานในรถแท็กซี่ สามารถติดตั้งและถอดได้ง่าย รวดเร็ว โดยไม่ต้องดัดแปลงตัวถังรถและอุปกรณ์เดิมของรถ ลดโอกาสในการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการแท็กซี่และคนขับแท็กซี่
โอกาสนี้ทีมวิศวกรกรมช่างอากาศได้มอบแบบพิมพ์เขียวให้สหกรณ์หรืออู่แท็กซี่ เพื่อนำไปผลิตใช้งานและพัฒนาต่อยอดในอนาคตด้วย
สำหรับอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ในรถแท็กซี่ จัดสร้างโดยกรมช่างอากาศ ใช้โมเดลรถ Toyota Altis 2017-2018 เป็นแม่แบบการผลิต โครงสร้างหลักทำจากแผ่นโพลิคาร์บอเนต ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความโปร่งใส แข็งแรง ต้านทานการขีดข่วนได้ดี ติดตั้งพัดลมดูดอากาศไปและกลับ รวม 6 ตัว ทำให้มีการหมุนเวียนของอากาศระหว่างห้องคนขับกับห้องผู้โดยสารเป็นอย่างดีและไม่มีเสียงรบกวน พร้อมติดตั้งชุดกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter : HEPA) ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดอนุภาคใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน เชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย จากละอองฝอยสารคัดหลั่งทางน้ำลายที่ล่องลอยอยู่บนอากาศ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวสร้างขึ้นโดยใช้วัสดุจากภายในประเทศที่หาซื้อได้ทั่วไป มีต้นทุนการผลิตประมาณ 2,700 บาทเศษต่อชุด
ทั้งนี้ กองทัพอากาศมีความมุ่งมั่นที่จะใช้ขีดความสามารถของบุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ของกองทัพอากาศ ในการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย