xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ”จี้กรมการปกครองตรวจสอบคณะก้าวหน้าจัดระดมทุนขออนุญาตหรือไม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีกลุ่มการเมืองนาม “คณะก้าวหน้า” นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้จัดกิจกรรมไลฟ์สด "คอนเสิร์ตระดมทุน #MAYDAYMAYDAY เราช่วยกัน" เมื่อวันที่ 1-2 พ.ค.63 ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าจะระดมทุนดังกล่าวไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื่อโรคไวรัสโควิด-19 นั้น โดยกิจกรรมดังกล่าวแม้จะมีวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์ แต่มิได้เป็นการดำเนินการโดยภาครัฐหรือทางราชการ กฎหมายจึงกำหนดให้ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนตามความใน ม.6 ประกอบ ม.8 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 ซึ่งตามกฎกระทรวงแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการขออนุญาตจัดให้มีการเรี่ยไรและทำการเรี่ยไร พ.ศ.2548 กำหนดให้อธิบดีกรมการปกครอง เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ม.8 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไปว่าผู้ขออนุญาตเคยต้องโทษเกี่ยวกับลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โจรสลัด กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ รับของโจร หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญาหรือไม่ หากใครฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตาม ม.17 ประกอบ ม.19 ได้หรือหากผู้จัดกิจกรรมปิดบังอำพรางข้อเท็จจริงก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ปอ.ม.172 ได้

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่า 1.กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าวมีการดำเนินการขออนุญาตจากกรมการปกครองตามกฎกระทรวง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร 2487 แล้วหรือไม่อย่างไร

2.กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าวมีการออกใบรับเงินให้กับผู้บริจาคทุกคนตามที่กำหนดไว้ใน ม.13 หรือไม่

3.กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าว มียอดรับเงินบริจาคตรงกับยอดการบริจาค โดยการนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ทั้งหมดแล้ว หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้เมื่อมีการตรวจสอบตามข้อร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลงไปแล้ว หากพบว่าเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนพรบ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 ก็ย่อมที่จะฝ่าฝืน พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามไปด้วย ย่อมถือได้ว่า “เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว” ขอให้ดำเนินการทางกฎหมายเพื่อลงโทษตามครรลองของกฎหมายสูงสุดต่อไป ทั้งนี้กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่อาจมีข้อยกเว้นให้บุคคลใดหรือคณะใดได้ แม้จะอ้างว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะก็ตาม