นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ “หัวข้อ “วิกฤติต้มยำกุ้ง&วิกฤติโควิด-19” ระบุว่า วิกฤติต้มยำกุ้ง & วิกฤติโควิด-19
- วิกฤติต้มยำกุ้ง เกิดสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต เมื่อพลเอกชวลิตลาออก รัฐบาลชวนเข้ามาแก้ปัญหาต่อ ผมจะเปรียบเทียบวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ครั้ง แบบภาษาชาวบ้านง่ายๆ
- วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 กระทบคนระดับบนหรือเศรษฐีเป็นหลัก ชาวบ้านได้รับผลกระทบน้อยกว่า ตอนนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยสู้กับการที่ต่างชาติถอนเงินออก จนทุนสำรองหมด ต้องไปกู้ไอเอ็มเอฟ
- วิกฤติโควิด-19 จะมีผลกระทบกับคนระดับล่างมากกว่า มีการห้ามออกจากบ้าน , ห้ามประกอบอาชีพบางอาชีพ , มีการเลิกจ้าง , คนตกงานอย่างกะทันหัน แต่มีข้อดีคือฐานะการคลังของประเทศดี รัฐบาลสามารถกู้เงินมาใช้ได้ถึง 1.9 ล้านล้านบาท
- วิกฤติต้มยำกุ้ง เราได้ยินเสียงร่ำไห้ของเศรษฐี วิกฤติโควิด-19 เราได้ยินเสียงร่ำร้องของคนจน
- วิกฤติต้มยำกุ้ง เกิดบางส่วนของโลก วิกฤติโควิด-19 เกิดขึ้นทั้งโลก
- คราวที่แล้ว หมอชวน หลีกภัย + ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ เป็นหมอรักษาไข้ คราวนี้หมอประยุทธ์ จันทร์โอชา+อุตตม สาวนายน เป็นหมอรักษาไข้ นี่ก็เริ่มฉีดยากันคนละเข็มสองเข็มแล้ว เข็มละ 5,000 บาท
ที่อยากแสดงความเห็นคือ ให้ระวังคนที่ไม่ได้ฉีดยา อาจมีเชื้อที่ไม่แสดงอาการ และอาจแพร่เชื้อไปติดคนอื่นได้ ผมว่าคนที่ไม่ได้ฉีดยานี่สวมแมส 2 ชั้นก็เอาไม่อยู่ สามารถแพร่เชื้อไปติดหมอได้(เชื้อไปติดหมอนี่อันตราย) ต่อให้มีระยะห่างเป็นพันกิโลเมตรก็จะเอาไม่อยู่ และจะเกิดการระบาดรอบสองตามมา เชื่อ อสม.อย่างผมเถอะครับหาคนป่วยให้เจอ แล้วจับไปฉีดยาซะ เข็มละ 5,000 ก็จำเป็นต้องฉีด อย่าให้หลงเหลืออยู่ เชื้อจะกลายพันธุ์ได้ ระบาดรอบสองแล้วยุ่งเลยล่ะ