กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 13 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
ในช่วงวันที่ 25 เมษายน 2563
ภาคเหนือ: จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา
ภาคกลาง: จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ในช่วงวันที่ 26 เมษายน 2563
ภาคเหนือ: จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จ.เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น และนครราชสีมา
ภาคกลาง: จ.อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก: จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง