นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะแผ่เข้าปกคลุมภาคกลาง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด จึงทำให้เกิดพายุฤดูร้อน โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง กอปภ.ก.จึงได้ประสาน 49 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน วาตภัย ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ และมีคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป ในวันที่ 24-26 เมษายน 2563 แยกเป็นภาคเหนือ 17 จังหวัด คือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก นครสวรรค์ และอุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด คือ จ. เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์
ภาคกลาง 13 จังหวัด คือ จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครนายก
ภาคตะวันออก 7 จังหวัด คือ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ 7 จังหวัด คือ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส พัทลุง และยะลา
ทั้งนี้ กอปภ.ก ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต รถปฏิบัติการ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที