คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค COVID-19 จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 14 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 191 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย รักษาหายกลับบ้าน 77 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต และกำลังรักษาพยาบาลมีจำนวน 113 ราย ในจำนวนนี้อาการรุนแรง 3 ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 191 ราย รวมอยู่ในรายงานผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงไปก่อนหน้าแล้ว ส่วนผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,4071 ราย เป็นรายใหม่ 70 ราย โดยยังคงรักษาพยาบาล 177 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 64 ราย กลับบ้านแล้ว 2,294 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 3 ราย มีรายละเอียดดังนี้
รายที่ 189 ชายไทย อายุ 33 ปี อาชีพ ช่างพนักงานร้านทำกระจกในบางเทา เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 187 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 15 ราย
รายที่ 190 หญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพ ทำอาหารขายในบางเทา เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 177 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 28 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 2 ราย
รายที่ 191 เด็กหญิงไทย อายุ 12 ปี อาชีพ นักเรียน เป็นบุตรสาวของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 190 และพักอาศัยที่บ้านหลังเดียวกันในบางเทา ต.เชิงทะเล อ. ถลาง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 14 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 2 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยทุกรายทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ทั้งหมดอาศัยและทำงานอยู่ในเขตบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พักอาศัยในบ้านเดียวกัน ทำงานในที่เดี่ยวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าโรคโควิด-19 สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้ง่ายโดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นย้ำเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม แม้จะไม่มีอาการป่วย หรืออาศัยบ้านหลังเดียวกัน ทำงานที่เดียวกัน ควรงดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์ และบอกรายละเอียดอย่างชัดเจน สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด