นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom แสดงความไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปเรียกร้องสิทธิ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่กระทรวงการคลัง พร้อมระบุว่า ปัญหาสำคัญอยู่ที่การขาดผู้ให้ข้อมูลที่ชัดเจน เกี่ยวกับมาตรการทางเศรษฐกิจ ย้ำรัฐบาลต้องมีการวางมาตรการเชิงรุกในการให้ข้อมูลข่าวสารด้านการช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชน เช่นเดียวกับทีมโฆษกของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่มีนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นหัวหอก โดยแต่ละวันควรจะมีโฆษกเศรษฐกิจออกมาทำความเข้าใจทุกวันและทุกกิจกรรม รวมทั้งชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาให้ประชาชนทราบ เชื่อว่าจะทำให้การปลุกปั่นและเฟกนิวส์ในโซเชียลลดน้อยลง
ทีมเศรษฐกิจต้องมีแบบหมอทวีศิลป์
เมื่อวานเห็นภาพประชาชนไปร้องเรียนที่กระทรวงการคลังแล้วไม่สบายใจ เป็นที่เข้าใจได้ว่า การทำงานทุกอย่างต้องมีข้อผิดพลาด เพราะเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก
หัวใจสำคัญคือ รัฐบาลต้องทันการณ์ต่อปัญหา ต้องเป็นฝ่ายรุก เพราะรัฐบาลต้องเรียนรู้ว่า มีผู้หวังจ้องปลุกปั่นเอาปัญหามาถล่ม รัฐบาลต้องชิงรุกในข้อมูลข่าวสาร เหมือนทีมโฆษกศูนย์โควิด ที่มีคุณหมอทวีศิลป์เป็นหัวหอก
เนื่องจากงบประมาณทั้งเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจมีมากถึง 1.9 ล้านล้าน ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดว่า แบ่งเงินออกไปช่วยกี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มเงินจะออกช่วงไหน ใครได้ ใครไม่ได้ และถ้าผิดพลาดต้องทำอย่างไรสำหรับคนที่มีปัญหา
ในแต่ละวันควรจะมีโฆษกเศรษฐกิจออกมาทำความเข้าใจทุกวันและทุกกิจกรรม และชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาให้ประชาชนทราบด้วย
ถ้าสามารถมีโฆษกมาทำความเข้าใจทุกวัน การปลุกปั่น และเฟคนิวส์ในโซเชียลจะลดน้อยลง โปรดเรียนรู้แนวการรุกข้อมูลข่าวสารจากศูนย์โควิด ผมเชื่อว่าทีมเศรษฐกิจยังมีเวลาตั้งตัวที่จะรุกกลับ
"ให้คิดว่าประชาชนขับรถติดแยกไฟแดง ถ้าเป็นไฟแดงรุ่นเก่าก็รู้สึกอึดอัด แต่ถ้าเป็นไฟแดงที่เห็นตัวเลขวิ่ง แม้รู้ว่าอีกนานจะไฟเขียวเขาก็รอได้ เพราะรู้เวลาที่แน่นอน"
ทีมเศรษฐกิจต้องมีแบบหมอทวีศิลป์
เมื่อวานเห็นภาพประชาชนไปร้องเรียนที่กระทรวงการคลังแล้วไม่สบายใจ เป็นที่เข้าใจได้ว่า การทำงานทุกอย่างต้องมีข้อผิดพลาด เพราะเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก
หัวใจสำคัญคือ รัฐบาลต้องทันการณ์ต่อปัญหา ต้องเป็นฝ่ายรุก เพราะรัฐบาลต้องเรียนรู้ว่า มีผู้หวังจ้องปลุกปั่นเอาปัญหามาถล่ม รัฐบาลต้องชิงรุกในข้อมูลข่าวสาร เหมือนทีมโฆษกศูนย์โควิด ที่มีคุณหมอทวีศิลป์เป็นหัวหอก
เนื่องจากงบประมาณทั้งเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจมีมากถึง 1.9 ล้านล้าน ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดว่า แบ่งเงินออกไปช่วยกี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มเงินจะออกช่วงไหน ใครได้ ใครไม่ได้ และถ้าผิดพลาดต้องทำอย่างไรสำหรับคนที่มีปัญหา
ในแต่ละวันควรจะมีโฆษกเศรษฐกิจออกมาทำความเข้าใจทุกวันและทุกกิจกรรม และชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาให้ประชาชนทราบด้วย
ถ้าสามารถมีโฆษกมาทำความเข้าใจทุกวัน การปลุกปั่น และเฟคนิวส์ในโซเชียลจะลดน้อยลง โปรดเรียนรู้แนวการรุกข้อมูลข่าวสารจากศูนย์โควิด ผมเชื่อว่าทีมเศรษฐกิจยังมีเวลาตั้งตัวที่จะรุกกลับ
"ให้คิดว่าประชาชนขับรถติดแยกไฟแดง ถ้าเป็นไฟแดงรุ่นเก่าก็รู้สึกอึดอัด แต่ถ้าเป็นไฟแดงที่เห็นตัวเลขวิ่ง แม้รู้ว่าอีกนานจะไฟเขียวเขาก็รอได้ เพราะรู้เวลาที่แน่นอน"