นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่าสงครามต้องจบภายในเมษายน ถ้าเราดูตัวเลขการแพร่ระบาดของประเทศไทยเรา ถือว่าไม่เลวครับ ตัวเลขหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 26 มีนาคม ซึ่งสะท้อนการติดเชื้อก่อนประกาศ วันนี้ 27 มีนาคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 91 ราย วันที่ 28 มีนาคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 109 ราย วันที่ 29 มีนาคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 143 ราย วันที่ 30 มีนาคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 136 ราย วันที่ 31 มีนาคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 127 ราย วันที่ 1 เมษายน มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 120 ราย วันนี้ 2 เมษายน มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 104 ราย ยอดป่วยสะสม วันที่ 2 เมษายน 1,875 ราย หายกลับบ้าน 505 ราย รักษาตัวที่ร.พ. 1,355 ราย เสียชีวิต 15 ราย ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ตัวเลขการติดเชื้อจะเริ่มสะท้อนผลของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศ 26 มีนาคม (โดยทั่วไประยะฟักตัว 5 ถึง 6 วัน แต่อาจจะอยู่ในช่วง 2 ถึง 14 วันก็ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ การยืนยันว่าติดเชื้อจึงถูกขอให้แยกตัวอยู่ตามลำพังเป็นเวลา 14 วัน) ประเมินว่ารัฐบาล คงค่อยๆให้ประชาชนปรับตัว มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยวัดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันที่ 3 เมษายนเป็นต้นไป และตัวชี้วัดที่สำคัญคือผู้ติดเชื้อรายใหม่หลังวันที่ 10 เมษายน (เปรียบเทียบระยะฟักตัวกับการประกาศ พ.ร.ก.และประกาศเคอร์ฟิวส์) น่าจะไปในทิศทางค่อยๆ ลดลง แต่ถ้าหลัง 10 เมษายน ตัวเลขไม่ลดลงหรือกลับเพิ่มขึ้น เราอาจเจอมาตรการที่หนักกว่านี้ คิดว่ารัฐบาลคงตั้งใจเผด็จศึกสงครามโควิดภายในเดือนเมษายนนี้ เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการควบคุมคืออากาศร้อน ถ้าผ่านไปสู่พฤษภาคมคือเข้าฤดูฝน การควบคุมจะลำบากขึ้น ดังนั้นเราคนไทยช่วยกันอีกอึดใจ ให้ความร่วมมือต่อมาตรการที่รัฐบาลประกาศ เราจะผ่านศึกครั้งนี้ไปด้วยกัน