นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในสิงคโปร์ ว่า ภาพรวมถือว่ารัฐบาลและทุกภาคส่วนสามารถร่วมมือกันควบคุมสถานการณ์ได้โดยตลอด แต่ภาครัฐต้องเพิ่มมาตรการบางอย่างเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดภายในชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การลดจำนวนผู้ป่วยใหม่ โดยจะใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์บังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนนี้
ทั้งนี้ ตลอดช่วงการบังคับใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ ให้สถานประกอบการหยุดการดำเนินงานภายในสำนักงาน ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้ายขายของชำ โรงพยาบาล คลินิก สถาบันการเงิน ระบบขนส่งสาธารณะ และกิจการที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภค
ขณะที่โรงเรียนและศูนย์รับเลี้ยงเด็กปิดการเรียนการสอน และเริ่มจัดการเรียนการสอนออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนนี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม สถานศึกษาและเนอร์สเซอรีจะเปิดให้บริการเป็นรายกรณีกับผู้ปกครองซึ่งไม่สามารถหยุดงานเพื่อเลี้ยงดูบุตรหลานได้
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ยืนยันว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนสิ่งของอุปโภค-บริโภค โดยรัฐบาลจะประกาศมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจชุดใหม่ต้นสัปดาห์หน้า
