สำนักงานการบินพลเรือนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ออกแถลงการณ์เรื่องการระงับการลงจอดของเที่ยวบินพาณิชย์ขาเข้าระหว่างประเทศ และบริการเปลี่ยนเที่ยวบินหรือทรานสิต โดยมาตรการจะมีผลบังคับใช้ภายในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า และครอบคลุมระยะเวลา 14 วันเป็นอย่างน้อย
มาตรการดังกล่าวยกเว้นเฉพาะเครื่องบินคาร์โก และเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่เป็นการอพยพพลเมืองของยูเออีกลับประเทศเท่านั้น ทั้งนี้ มีความเป็นได้สูงว่ามาตรการนี้จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการสัญจรของเที่ยวบินพาณิชย์ทั่วโลก แม้บรรดาสายการบินแทบทุกแห่งจำเป็นต้องลดขนาดการบริการ เนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เนื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติดูไบคือหนึ่งในสนามบินซึ่งให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศมากที่สุด
ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยของยูเออีกออกแถลงการณ์ขอความร่วมมือให้ประชาชนออกนอกเคหสถานเฉพาะในยามจำเป็น เช่นเดียวกับการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะควรเกิดขึ้นเมื่อต้องไปทำงาน หรือมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น ครอบครัวเดียวกันควรเดินทางด้วยรถยนต์คันเดียว และการที่ครัวเรือนหนึ่งต้องการออกไปจับจ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นกำหนดจำนวนตัวแทนสูงสุดบ้านละ 3 คน ส่วนร้านอาหารให้จำหน่ายในแบบกลับบ้านเท่านั้น ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษสถานหนักตามกฎหมาย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เที่ยงตรงของวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา บุคคลซึ่งไม่ได้ถือสัญชาติยูเออีจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน รวมถึงผู้มีถิ่นพำนักถาวร ซึ่งหากตอนนี้อยู่ต่างประเทศจะยังไม่สามารถกลับเข้าเมืองได้ แต่ขอให้ติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลของยูเออีในประเทศนั้น
อย่างไรก็ตาม พลเมืองยูเออียังสามารถเข้าประเทศได้ตามปกติ แต่ต้องกักตัวเอง 14 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านเจ้าหน้าที่การทูตและเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศเดินทางเข้าและออกยูเออีได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการเคร่งครัดของเจ้าพนักงานควบคุมโรค