นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทำไมคนไม่รับสิ่งที่นายกฯ พูด กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,306 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุว่า ทำไมคนไม่รับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.9 ระบุ ขาดข้อมูลที่ดี ไม่ตอบโจทย์ประชาชน รองลงมา คือ ร้อยละ 50.6 ระบุ ไม่ถามประชาชนก่อน ร้อยละ 34.7 ระบุ ทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาลขัดแย้งกันภายใน และร้อยละ 5.2 ระบุ อื่นๆ เช่น พูดเยอะหลายเรื่องสับสน ฟังไม่ชัด พูดเร็วรัวไป และเป็นเพราะสื่อมวลชน เป็นต้น
ที่น่าเป็นห่วง คือ ผลกระทบจากทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาลต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.5 ระบุ กระทบภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 39.5 ระบุ กระทบค่อนข้างน้อย ถึง ไม่กระทบเลย
ที่น่าพิจารณา คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.8 ระบุ ควรเปลี่ยนทีมงานข้อมูล ทีมโฆษกรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 23.2 ระบุ ควรทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความรู้สึกละความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี พบว่า เกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 31.8 สงสารนายกรัฐมนตรี เห็นว่าเหนื่อยแต่ควรทำงานต่อไป ในขณะที่ร้อยละ 55.3 เห็นว่าควรปรับคณะรัฐมนตรี และร้อยละ 12.9 ระบุ อื่นๆ
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า จากการเกาะติดกับความเห็นของประชาชนมาตลอด พบว่าประชาชนส่วนใหญ่สับสนกับข้อมูลที่ซ้ำเติมความตื่นตระหนกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อดึงความเชื่อมั่นและวางใจต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลควรลดบทบาทของทีมงานโฆษกรัฐบาลลงในช่วงวิกฤตศรัทธาเวลานี้ เพราะทีมงานโฆษกรัฐบาลไม่ใช่กลุ่มคนที่ประชาชนเชื่อถือ แต่ควรนำคณะบุคคลที่น่าเชื่อถือของประชาชนออกมาพูดในแต่ละเรื่องที่เชี่ยวชาญ พูดแล้วประชาชนวางใจ ทั้งในเรื่องโควิด-19 ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่ควรเยอะ แต่ทำเฉพาะเรื่องสำคัญๆ