นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธณรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่รองประธานกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎรและคณะ ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับบ้านพักราชการทหารว่า ตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการพักอาศัยในบ้านพักทหารปี 2548 ระบุว่า ผู้ที่จะอยู่ในบ้านพักได้ จะต้องเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กองทัพบกและประเทศชาติจนเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในบ้านพักตามระเบียบข้อนี้ จึงยังคงสามารถพักอาศัยอยู่ได้นั้น
คำแถลงดังกล่าวของ กมธ.ทหารโดยอ้างระเบียบของกองทัพบกนั้น กระทำมิได้เพราะระเบียบของกองทัพบกมีศักดิ์ต่ำกว่าบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2560 ในเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ใน ม.184(3) ประกอบ ม.186 วรรคสอง ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ส.ส., ส.ว. หรือรัฐมนตรีจะรับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ในธุรกิจการงานปกติไม่ได้ และรัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งกระทําการใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองโดยมิชอบตามที่กําหนดในมาตรฐานทางจริยธรรมมิได้ นอกจากนั้นตาม พรป.ป.ป.ช.2561 ม.128 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ 2543 ก็ห้ามรับทรัพย์สินและหรือประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3,000 บาทมิได้
ดังนั้นการที่บ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการทหารไปแล้ว แต่ยังคงใช้บ้านพักหรือคฤหาสน์ใหญ่โตในค่ายทหาร ย่อมถือได้ว่าได้รับผลประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3,000 บาทโดยชัดแจ้ง ความพยายามที่จะหาข้ออ้างมาอรรถาธิบายโดยไม่มีกฎหมายที่เหนือกว่ารัฐธรรมนูญมารองรับ เช่น เพื่อความปลอดภัยของผู้นำประเทศ หรือมีระเบียบของกองทัพบกอนุญาตให้พักได้นั้น เป็นข้ออ้างที่สามารถใช้ได้แต่ในประเทศสารขันธ์เท่านั้น