ตามที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ออกประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ให้หยุดเรียนหรือหยุดงานในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาโดยไม่นับเป็นวันลา ไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากยังมีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 เป็นจำนวนมาก และเชื้อโรคดังกล่าวยังคงแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลก จุฬาฯจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียน นิสิต และบุคลากร จึงได้ออกประกาศจุฬาฯ 2 ฉบับ ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ดังนี้ประกาศจุฬาฯ เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID-19 และประกาศจุฬาฯ เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศหรือพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 โดยมีรายละเอียดประกาศฉบับแรกดังนี้ ประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID-19 โดยระบุว่า อาศัยมาตรา 32 มาตรา 77 และมาตรา 86 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 ประกอบกับข้อ 15 วรรคสาม แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 และข้อ 10 วรรคสอง แห่งระเบียบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาสัย ว่าด้วยการลาของพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551 จึงเห็นสมควรให้ดำเนินการดังนี้
1.ไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้นักเรียน นิสิต หรือบุคลากรลา เพื่อเดินทางไปยังหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 ตามที่มหาวิทยาลัยประกาศกำหนด ซึ่งมีกำหนดการเดินทางระหว่างวันที่ 20 ก.พ. - 19 เม.ย. 2563
2.กรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้ลาเพื่อเดินทางไปยังประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงดังกล่าวอยู่ก่อนวันประกาศนี้ ให้นักเรียน นิสิต หรือบุคลากรงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปให้พ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และถ้ามีค่าใช้จ่ายที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วเกิดขึ้นก่อนวันที่ประกาศนี้ ให้สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ตามจริงกรณีที่มีเหตุผลหรือความจำเป็นอย่างยิ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรด COVID-19 ได้ ให้นักเรียน นิสิตหรือบุคลากรแจ้งเหตุผลหรือความจำเป็นดังกล่วต่อหัวหน้าส่วนงานหรือรองอธิการบดีที่กำกับการปฏิบัติงาน/กำกับดูแลแล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณา และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วให้ดำเนินการตามข้อ 3
3.นักเรียน นิสิต หรือบุคลากรที่เดินทางไปยังหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรด COVID-19 กลับมาถึงประเทศไทยภายในวันที่ 19 เม.ย. 2563 ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้เดินทางหรือเดินทางด้วยภารกิจส่วนตัว ให้ผู้นั้นมีหน้าที่ไปรับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชื้อโรค COVID-19 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์หรือสถานพยาบาลอื่นที่มีมาตรฐานในการตรวจคัดกรองและฝ้าระวังเทียบเท่ากับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในวาระแรกที่สามารถกระทำได้ แล้วรายงานผลการตวจดังกล่าวต่อหัวหน้าส่วนงานหรือรองอธิการบดีที่กำกับการปฏิบัติงาน/กำกับดูแล แล้วแต่กรณี
ถ้าหากตรวจพบหรือมีภาวะเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรค COVID-19 ให้หัวหน้าส่วนงานหรือรองอธิการบดีที่กำกับการปฏิบัติงานกำกับดูแล แล้วแต่กรณี พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นงดเข้าชั้นเรียนหรือหยุดมาปฏิบัติงาน เพื่อรับการรักษาจนหายเป็นปกติ หรือเพื่อเฝ้าดูอาการ เป็นเวลา 14 วันนับจากวันที่กลับมาถึงประเทศไทย โดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน หรือขาดการปฏิบัติงาน และไม่นับเป็นวันลา หัวหน้าส่วนงานหรือรองอธิการบดีที่กำกับการปฏิบัติงาน/กำกับดูแล แล้วแต่กรณี ที่สั่งให้นักเรียน นิสิต บุคลากรคนใดงดเข้าชั้นเรียนหรือหยุดมาปฏิบัติงาน เพื่อเฝ้าดูอาการตามวรรคหนึ่ง อาจมอบหมายงานให้ผู้นั้นปฏิบัติในระหว่างที่หยุดเฝ้าดูอาการนั้นก็ได้
4.ให้งดหรือเลื่อนการเชิญบุคคลจากต่างประเทศมาร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน การประชุม การสัมมนาหรือการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 20 ก.พ. - 19 เม.ย. 2563 ออกไปก่อน และถ้าหากมีค่าใช้จ่ายที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วเกิดขึ้นก่อนวันที่ประกาศนี้ ให้สามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ตามจริง
5.ให้นักเรียน นิสิตและบุคลากร ถือปฏิบัติตามประกาศนี้โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2563 เป็นตันไป
ส่วนฉบับที่สอง
ประกาศจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 โดยกำหนดให้ประเทศดังมีรายชื่อต่อไปนี้ เป็นประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 1.สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) 2.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) 3.สาธารณรัฐประชาชนจีน 4.เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 5.เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 6.ญี่ปุ่น 7. มาเลเซีย 8.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 9.สาธารณรัฐสิงคโปร์