นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้การช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่มีแนวโน้มหรือกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างเร่งด่วน โดยในขณะนี้สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ให้การช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัด ด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือการอุปโภคบริโภคจำนวน 52 เครื่อง และยังได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้อีก 148 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 9 คัน และเครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ พร้อมเข้าช่วยเหลือได้ทันทีตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก กรมชลประทานได้วางแผนไว้อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีปัญหาขาดแคลนน้ำหรือแย่งน้ำระหว่างภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเหมือนในอดีต โดยในการทำงานจะมีการตกลงร่วมกันของผู้ใช้น้ำทั้งหมด มีการตั้งคณะทำงาน ซึ่งเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนประชุมทุก 15 วัน ดังนั้นการบริหารน้ำภาคตะวันออกจึงเป็นไปตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะต้องไม่ขาดแคลนน้ำ และประชาชนในภูมิภาคจะต้องมีน้ำอุปโภค บริโภค