นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า จากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบภัย เนื่องจากการช่วยเหลือราชการฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทายาทของผู้มีสิทธิ์ดังกล่าวติดต่อที่ว่าการอำเภอเมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อยื่นแบบคำขอรับความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการทุพพลภาพ ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการและได้รับเงินชดเชย ซึ่งคำนวณเป็นอัตราส่วนตามกฎกระทรวงเพิ่มเติมจากการได้รับบาดเจ็บ กรณีทุพพลภาพขนาดหนัก ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพขนาดหนักจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ 450,000 บาท และเงินดำรงชีพเดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต
ส่วนกรณีถึงแก่ความตาย ทายาทจะได้รับเงินชดเชย 450,000 บาท และค่าจัดการศพ 45,000 บาท ทั้งนี้ เงินค่าจัดการศพ สามารถขออนุมัติระดับจังหวัด โดยไม่ต้องส่งเรื่องมาที่ส่วนกลาง กรณีเข้ารับการรักษา ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เหมือนข้าราชการ และหากแพทย์มีคำสั่งให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล จะมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยระหว่างเข้ารับการรักษาพยาบาลในอัตรา 500 บาทต่อวัน (คำนวณจ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว)
นายภูมิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้สั่งการให้สำนักงานคลังเขตและสำนักงานคลังจังหวัดเร่งประสานสถานีตำรวจพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลผู้มีสิทธิ์และเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อส่งเรื่องมาที่คณะกรรมการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งจะกำหนดวันนัดประชุมและอนุมัติเงินโดยเร็ว สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าวจะได้รับบำเหน็จบำนาญ และเงินช่วยเหลืออื่นๆ คือ บำเหน็จตกทอด (เงินเดือนคูณเวลาราชการที่รวมทวีคูณแล้ว) เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าของอัตราเงินเดือน เพื่อช่วยค่าจัดการศพ และทายาทของเจ้าหน้าที่ที่ผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์ได้รับบำเหน็จบำนาญพิเศษ