บัวแก้วหารือหน่วยงาน เตรียมพร้อมช่วยคนไทยในจีนทันทีที่ได้รับอนุมัติให้เข้าเมือง

นายธนา เวชโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center- RRC) เพื่อเตรียมแผนเผชิญเหตุเพื่อช่วยเหลือคนไทยในจีน กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบสถานการณ์และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยในเมือง อู่ฮั่น และเมืองอื่นๆ ในจีน

นายธนา กล่าวว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์ โดยรัฐบาลจีนยืนยันว่าจะดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ขณะเดียวกัน ทางจีนได้ออกข้อปฏิบัติให้คนหลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่แออัดและทราบถึงข้อปฏิบัติ รวมทั้งแจ้งหมายเลขฉุกเฉินสถานกงสุลใหญ่ในจีนทุกแห่ง ขณะที่สถานกงสุลได้แจ้งให้คนไทยทราบถึงมาตรการต่างๆ โดยขณะนี้มีคนไทยในอู่ฮั่นทั้งหมด 64 คน เป็นนักศึกษา 49 คน และทำอาชีพอื่นๆ รวมถึงนักท่องเที่ยว 15 คน ขณะที่อยู่ในเมืองต่างๆ ของมณฑลหูเป่ยอีก 18 คน โดยทราบว่าทุกคนปลอดภัยดี ซึ่ง 18 คนนี้สามารถที่จะเดินทางกลับได้ เพราะไม่มีการสั่งปิดเมืองเหมือนที่อู่ฮั่น

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ เห็นว่าทางการจีนมีมาตรการจำกัดในการเข้า-ออกพื้นที่อย่างเด็ดขาด จึงเป็นมาตรการที่จีนควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ที่ประชุมจึงเห็นควรเตรียมมาตรการภายในรองรับให้พร้อม และเมื่อใดที่ทางการจีนพร้อม ไทยจะดำเนินการประสานงานให้ความช่วยเหลือทันที ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการรายงานว่าคนไทยจะขอกลับไทย ขณะนี้อู่ฮั่นเป็นเพียงเมืองเดียวที่จำกัดการเข้า-ออก

สำหรับกรณีที่นักศึกษาขอความช่วยเหลือ นายธนา กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้เข้าไปติดต่อกับนักศึกษาคนดังกล่าวแล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าที่โพสต์เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนักศึกษาเข้าใจสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ ขณะนี้มีแอปพลิเคชันวีแชท (WeChat) ในการติดต่อกันกับสถานทูตอย่างใกล้ชิด และทางกลุ่มแชตก็มีแพทย์ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้รู้สึกว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ทั้งนี้เนื่องจากคนกลุ่มใหญ่เป็นนักศึกษา อาจมีการโอนเงินไปที่ท้องถิ่นเพื่อให้ดูแลนักศึกษาที่ตกค้าง

น.ส.บุษฎี กล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีนักศึกษาที่ขอความช่วยเหลือในเมืองอู่ฮั่นนั้น ล่าสุดทางสถานทูตให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ทางนักศึกษาจึงมีความสบายใจขึ้นหลังจากได้รับคำแนะนำจากสถานทูต และได้เข้าร่วมกลุ่มวีแชต ซึ่งมีการให้คำแนะนำและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับแผนระยะต่อไป ทางรัฐบาลเตรียมความพร้อมให้การสนับสนุนในการให้ความช่วยเหลือ และซักซ้อมมาตรการอื่นๆ ให้เกิดความพร้อมมากที่สุด

ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว และมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินที่กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์ประสานงานฉุกเฉินของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมศูนย์ข้อมูล เพื่อให้เป็นข้อมูลชุดเดียวกัน จึงขอให้มีการรับข้อมูลและหากมีข้อสงสัยให้ตรวจสอบข้อมูลที่ศูนย์ดังกล่าวก่อนการเผยแพร่