องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์เรื่อง การเพิกเฉยต่อสถานการณ์ฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ของรัฐบาล
เนื่องด้วยในช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ได้เกิดสถานการณ์ปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เริ่มต้นในบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขยายผลเป็นวงกว้างสู่หลายจังหวัดในประเทศไทย เป็นผลทำให้ประชาชนเผชิญผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพ แต่ไร้ซึ่งท่าทีโต้ตอบของรัฐบาลหรือผู้เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหานี้ แม้จะมีการประกาศว่าปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติในปี พ.ศ. 2562 แต่ก็ไม่มีการแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวต่อประชาชนแต่อย่างใด
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในนามตัวแทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้ใช้อากาศเพื่อการดำรงชีวิต ขอประณามการเพิกเฉยของรัฐบาลที่มีต่อสถานการณ์ปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในประเทศไทยทั้งด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว โดยออกมาตรการทั้งในด้านการรับมือสถานการณ์ระยะเร่งด่วนเนื่องจากสถานการณ์อาจแย่ลง ด้านการรับมือในระยะสั้น เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ และด้านการรับมือในระยะยาวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวอีก ในอนาคต ซึ่งปัญหานี้มีแนวโน้มจะรุนแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์เคยกล่าวว่า "ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ น้ำดื่มบริสุทธิ์สำหรับดื่ม เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายแบบโง่ๆ อย่างบ้าๆ คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้ เกิดขึ้น ตายในสงครามการเมือง ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำ หรืออากาศเป็นพิษ หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ" ซึ่งสะท้อนว่าอากาศบริสุทธิ์เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงมีเพื่อการดำรงชีวิต ดังนั้น องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนที่สุด ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาระดับชาติ และเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี รัฐบาลไม่ควรเพิกเฉยหรือผลักภาระให้ประชาชนรับมือด้วยตนเอง หากรัฐบาลมีมาตรการรับมือสถานการณ์ที่สมเหตุสมผล ประชาชนย่อมพร้อมปฏิบัติตาม เพื่ออากาศหายใจที่บริสุทธิ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป “สุขภาพที่ดีเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี”