นางรสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “รสนา โตสิตระกูล”ระบุว่า เหตุใดรัฐบาลจึงผ่องถ่ายกำไรของรัฐวิสาหกิจเนื้อดีให้ธุรกิจเอกชนผูกขาด
กฟผ.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ 100% ได้นำส่งรายได้ให้รัฐสูงสุด 18,301 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2563 ทั้งๆที่ผลิตไฟฟ้าได้เพียงประมาณ 38%ของความต้องการใช้ไฟในประเทศ ส่วนไฟฟ้าที่ประชาชนใช้อีกกว่า60% รัฐบาลยกให้เอกชนเป็นผู้ผลิต
แม้รัฐบีบให้กฟผ.ผลิตไฟฟ้าลดลงเหลือเพียง38% แต่กฟผ.กลับส่งรายได้ให้รัฐสูงสุดในบรรดารัฐวิสาหกิจทั้งหลาย ถ้ากฟผ.ผลิตไฟฟ้าได้เกิน50% หรือมากกว่านี้ย่อมส่งรายได้ให้เป็นงบประมาณแผ่นดินได้มากกว่านี้
กรณีที่รัฐบาลทำให้กฟผ.ผลิตไฟฟ้าต่ำกว่า 51% นั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัยแล้วว่าขัดรัฐธรรมนูญ นอกจากรัฐบาลยังไม่มีทีท่าจะแก้ไขแล้ว ยังยกเลิกมติครม.ของตัวเองที่ให้กฟผ.สามารถนำเข้าเสรีก๊าซ LNG อีกด้วย ใช่หรือไม่
เหตุใดรัฐบาลหักดิบไม่ให้กฟผ.นำเข้าก๊าซ LNG มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า ซึ่งกฟผ.ประมูลได้จากมาเลเซียในราคาถูกกว่าซื้อจาก ปตท.
ถ้าให้ กฟผ.สามารถนำเข้าก๊าซ LNG มาใช้เองบ้างบางส่วน ย่อมจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟให้ประชาชน และ กฟผ.จะมีกำไรมากขึ้น ทำให้สามารถส่งรายได้ให้รัฐมากขึ้น ใช่หรือไม่
เวลานี้มีข้อสงสัยว่ารัฐบาลมีเจตนาอะไร ที่บริหารรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรให้กำไรน้อยลง จนขาดทุน อาทิเช่นโรงงานยาสูบ และการทางพิเศษ ใช่หรือไม่
ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจตัวจริง จึงมีเครื่องหมายคำถามตัวโตๆว่าเหตุใดรัฐบาลจึงไม่ดูแล ฟูมฟัก ปกป้อง รัฐวิสาหกิจที่เป็นของรัฐ 100% ให้เป็นรายได้แบบน้ำซึมบ่อทราย ดังเช่นกฟผ.ซึ่งเป็นของรัฐ 100% ที่แม้กระปรกกระเปลี้ยลง ก็ยังสามารถทำรายได้ให้รัฐ มากกว่ารัฐวิสาหกิจที่รัฐถือหุ้นเพียง 51%