พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2564 แก่หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้รับทราบนโยบาย หลักเกณฑ์และแนวทางในการจัดทำงบประมาณ กำหนดกรอบแผนงาน/โครงการ ตามนโยบายรัฐบาล ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป็นไปตามแผนงานบูรณาการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 14 แผนงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางการใช้จ่ายงบประมาณควรเป็นไปโดยเร็ว เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 มีผลบังคับใช้ ซึ่งตามปฏิทินจะต้องพิจารณางบประมาณให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้ ขณะเดียวกัน ต้องตระหนักถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก มาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยรัฐบาลต้องหามาตรการมารองรับผลกระทบ และต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น เช่น มาตรการการท่องเที่ยว มาตรการชิมช้อปใช้ การประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เติบโตขึ้น ส่วนไตรมาสที่ 4 คาดหวังว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3 ส่วนมาตรการระยะยาว รัฐบาลมุ่งส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ ให้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าว่าในปี 2568 ไทยต้องหลุดพ้นจากความยากจน เป็นประเทศที่พร้อมเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งในมุมมองของต่างชาติมีการประเมินถึงการปรับปรุงความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจไทยโดยให้ไทยมีระดับที่ดีขึ้น มีความสนใจมาลงทุนเพิ่มขึ้น
สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 นั้น รัฐบาลยังกำหนดให้เป็นงบแบบขาดดุลต่อเนื่องจากงบปี 2563 แต่ต้องกำหนดกรอบไม่ให้กระทบต่อวินัยการเงินการคลังและต้องหาเงินรายได้มาชดเชยงบประมาณในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจสูง แต่รัฐบาลทำเพียงลำพังไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย
