วันนี้ (8 ธ.ค.)เวลา 17.29 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา
นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ในการพระราชทานเพลิงศพ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯ รับเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์10 รูปบังสกุล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นเมรุทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกศ ทรงยืนเมื่อกองเกียรติยศเป่าแตรนอน เมื่อจบแตรนอนแล้ว ทรงจุดไฟที่ชนวนตำรวจหลวงชูถวาย พระราชทานเพลิง เจ้าพนักงานประโคมแตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จลงจากเมรุ
จากนั้นสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาเสด็จขึ้นเมรุทรงวางรูปเทียนดอกไม้จันทน์ส่วนพระองค์ และเสด็จลงจากเมรุ สมควรแก่เวลาแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
การนี้ ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ กลับ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนที่มาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลเอกเปรม ได้ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ที่หน้าเมรุหลวงพลับพลาอิศริยาภรณ์
จากนั้นเวลา 19.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รักษาการประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการ พระราชทานเพลิงจริง ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ ผู้แทนพระองค์ขึ้นเมรุ ทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์บังสุกุล หยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์จากพนักงานพระราชพิธีจุดไฟที่ชนวนพระราชทานเพลิง สมควรแก่เวลา ทอดผ้าไตร 3 ไตร ทอดครั้งละไตร พระสงฆ์บังสุกุล ผู้แทนพระองค์กลับ
ในวันที่ 9 ธ.ค.62 เวลา 7.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก สุรยุทธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการเก็บอัฐิ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อผู้แทนพระองค์ถึงเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะอัฐิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ผู้แทนพระองค์ ทอดผ้าไตรพระสามหาบ 3 ไตร พระสงฆ์บังสุกุล รดน้ำอบที่อัฐิ โปรยดอกไม้ ผู้แทนพระองค์เก็บอัฐิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จุ่มลงในน้ำอบ เก็บใส่ในโกศ ให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปวางบนโต๊ะหมู่ในพลับพลาอิสริยาภรณ์ ผู้แทนพระองค์เดินตามอัฐิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ขึ้นบนพลับพลาอิสริยาภรณ์ผู้แทนพระองค์ประเคนภัตตาหารเมื่อพระสงฆ์ฉันเสร็จพระสงฆ์อนุโมทนาถวายอดิเรก แล้วผู้แทนพระองค์เดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานพระทานเพลิงศพ มีบุคคลสำคัญมาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลเอกเปรม อาทิ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้รักษาการประธานองคมนตรี พร้อมด้วยคณะองคมนตรี, พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรี, นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา, นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ผู้นำเหล่าทัพ, ผู้บริหารภาคเอกชน, นักการเมือง
นอกจากนี้ มีประชาชนพร้อมใจใส่ชุดสีดำไว้ทุกข์หลั่งไหลมา วัดเทพศิรินทราวาส เพื่อแสดงความอาลัยแก่ พลเอก เปรม เป็นครั้งสุดท้าย โดยเจ้าหน้าที่จัดจุดคัดกรองประชาชน นำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนรับสติ๊กเกอร์เข้างาน โดยในส่วนประชาชนทั่วไป รับดอกไม้จันทน์วางที่พานตั้ง เบื้องหน้าหน้าภาพพลเอก เปรม บริเวณโรงเรียนเทพศิรินทร์ ส่วนคณะประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดสงขลา จัดให้เข้าวางดอกไม้จันทน์ในบริเวณวัด
ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการแจกของที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพแก่แขกผู้มีเกียรติ เป็นซองจดหมายสีน้ำตาล ระบุข้อความว่า บัตรรับหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ พลเอก เปรม ภายในมี 3 ซองย่อย ได้แก่ 1.บัตรรับหนังสือพระราชทาน พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานในงานพระราขทานเพลิงศพ พลเอกเปรม มีกำหนดรับหนังสือวันที่ 24 สิงหาคม ถึว 25 ธันวาคม 2563 ณ สำนักงานองคมนตรี 2.บัตรรับหนังสือของรัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ชื่อจารึกไว้ในแผ่นดิน พลเอกเปรมฯ มีกำหนดรับหนังสือระหว่างวันที่ 13 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2563 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ 3.บัตรรับหนังสือที่ระลึกของมูลนิธิรัฐบุรุษ และเหรียญเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน มีกำหนดรับหนังสือและเหรียญวันที่ 30 สิงหาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2563 ณ มูลนิธิรัฐบุรุษ