นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ที่เป็นการทุ่มงบประมาณสูงถึง 13 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 3.62 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนงบประมาณดังกล่าว 6 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท จะเป็นการลงทุนโดยภาครัฐในพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติร้ายแรงรวมถึงหลายจังหวัดในภูมิภาคคันโต ซึ่งเป็นเส้นทางพาดผ่านของไต้ฝุ่นฮากีบิส เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา
ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า หากรวมการลงทุนจากภาคเอกชนกับแผนยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะทำให้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 26 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 7.25 ล้านล้านบาท ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า ผลลัพธ์จากโครงการดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นรูปธรรมอย่างจำกัด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเน้นการฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้นที่จะได้รับผลประโยชน์ จึงยังไม่น่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว
ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า หากรวมการลงทุนจากภาคเอกชนกับแผนยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะทำให้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 26 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 7.25 ล้านล้านบาท ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า ผลลัพธ์จากโครงการดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นรูปธรรมอย่างจำกัด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเน้นการฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้นที่จะได้รับผลประโยชน์ จึงยังไม่น่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว