พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก “พงศกร รอดชมภู” ระบุว่า ขอเฉลยเพื่อนำเสนอท่านนายกฯ ว่า อนาคตใหม่ไม่ได้ยกเลิกทหารกองประจำการ แต่เราขยายเวลาฝึกและสร้างความชำนาญ รวมถึงมีทุนการศึกษา และสวัสดิการต่างๆเพื่อให้มีจิตใจรุกรบ ไม่ใช่ฝึกเดือนเดียวแล้วทิ้งปืนหนีอย่างที่ท่านเกรง งบประมาณก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น โดยต้องกล้าลดขนาดกองทัพลงเพื่อไปเพิ่มเทคโนโลยีและอาวุธดีๆ มากขึ้น
การรับราชการเป็นทหารอาชีพ มีการฝึกที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีมาตรฐานแบบสากล นำความภูมิใจและจิตใจรุกรบมากกว่าการบังคับไปเป็นทหารแน่นอน
วันนี้ผมได้เข้าไปฟัง ปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพในการแถลงป้องกันงบประมาณในคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ ทุกท่านก็พูดไปในทำนองเดียวกันนี้เช่นกัน เพียงแต่ยังไม่พูดถึงการรับสมัครแทนการเกณฑ์เท่านั้น
การเห็นว่าเกณฑ์ทหารและ รด. คือความเป็นธรรมนั้น โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยและคิดว่าเป็นการแบ่งแยกกันระหว่างคนมีกับคนไม่มีด้วยซ้ำไป
ยิ่งมองว่าเรียนวิชาทหารแล้วก็ไม่ต้องเป็นทหารยิ่งตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำ และกองทัพจะอ่อนแอ เพราะการฝึกก็เพื่อให้ทุกคนรบได้จริง ไม่ใช่ให้ไม่ไปรบ
การมีความแตกต่างในกองทัพมากเท่าไร ความอ่อนแอจะมากขึ้นตามมา ความสมัครใจจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้
ยิ่งมีความเป็นทหารอาชีพ มีความรู้และทักษะเพิ่มเติม มีทุนประกอบอาชีพ จะเป็นหน่วยผลิตที่มีค่าให้สังคมไทยเมื่อปลดประจำการไป
กรณีน้ำท่วม ทหารยังมีมากมายที่จะไปช่วยบรรเทาสาธารณภัย ทั้งที่ควรเป็นหน้าที่หลักของฝ่ายพลเรือน
ในการเกิดสงครามขนาดใหญ่ กำลังหลักและกองหนุนก็ยังมีจำนวนรวมใกล้เคียงหรือเท่าเดิม เพียงแต่ปรับจากเดิมที่กำลังหลัก(ประจำการ) มีมากกว่ากองหนุน มาเป็น กองหนุนมีมากกว่าเท่านั้น ดังนั้นการระดมพลมาช่วยบรรเทาภัยหรือทำสงคราม จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซ้ำยังมีกำลังพลที่มีความชำนาญสูง มีความเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันสูง รู้ทางการทำงานกันได้เป็นอย่างดี ประเทศชาติจะเข้มแข็งขึ้นเสียอีก
สอดคล้องกับพระปรีชาของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ที่ทรงปฏิรูปกองทัพและระบบราชการให้เป็นสมัยใหม่มาจนปัจจุบัน บทพิสูจน์คือการเอาชนะสงครามฮ่อ ด้วยกองทัพที่ฝึกแบบตะวันตก ทั้งที่กองทัพรูปแบบเดิมซึ่งกำลังมากกว่าก็ทำได้เพียงเสมอหรือแพ้กองทัพฮ่อเท่านั้น
ส่วนเพื่อนๆ ว่าอย่างไรก็ลองให้ความเห็นกัน เชื่อว่าหลายๆท่านมีคำตอบดีๆ ครับ