พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานร่วมกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี แถลงข่าวผลการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 1 ณ อาคารการประชุม ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนครปูซาน
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสาธารณรัฐเกาหลีที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำครั้งแรก ท่ามกลางบรรยากาศฉันมิตรและประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทุกประเทศสมาชิกยืนยันสนับสนุนความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดจากการประชุมสุดยอดอาเซียน–สาธารณรัฐเกาหลี และยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีและสมาชิกลุ่มน้ำโขงขึ้นสู่ระดับสูงสุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 ประเด็นสำคัญ หรือ 3P ที่สอดคล้องกับสามเสาหลักของนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในเรื่องของประชาชน (People) สนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษา สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทยและสาธารณรัฐเกาหลีให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ทุกปี หรือเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในระยะ 5 ปี รวมถึงการดำเนินโครงการปีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการศึกษา ในปี 2564 ซึ่งจะฉลองครบรอบ 10 ปี ของความร่วมมือ ตลอดจนนายกรัฐมนตรีย้ำถึงการดูแลประชาชนในช่วงการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ขณะที่เรื่องความเจริญรุ่งเรือง (Prosperity) นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความเชื่อมโยงในทุกมิติเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเติบโตทางเศรษฐกิจ การเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการผลิต นายกรัฐมนตรีจึงเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อสนับสนุนความสามารถด้านดิจิทัลแก่ประเทศลุ่มน้ำโขง
ส่วนเรื่องสันติภาพ (Peace) ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่กระทบต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีเสนอให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศที่ทันสมัยของสาธารณรัฐเกาหลีในการพยากรณ์สภาวะน้ำท่วมและภัยแล้งในระยะยาวเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมทั้งช่วยกันรักษาป่าอาเซียน ปลูกป่าอาเซียน และร่วมกันบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค โดยยึดมั่นและปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและพันธกรณีระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอวยพรให้กับเวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลีที่จะเป็นประธานร่วมกันในการประชุมปีหน้าด้วย