“ประยุทธ์” ควง ปธน.เกาหลี แถลงประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลี เพื่อสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และเป็นหุ้นส่วน มุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ เสริมสร้างความเชื่อมโยง ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างสถาปัตยกรรม ส่งเสริมความร่วมมือ
วันนี้ (26 พ.ย.) เวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครปูซาน) ณ อาคารการประชุม ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนครปูซาน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี เป็นประธานร่วมในการแถลงข่าวผลการประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้
ผู้นำอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีได้ร่วมรับรองถ้อยแถลงวิสัยทัศน์ร่วมอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นหุ้นส่วน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินความสัมพันธ์ในอนาคตอาเซียนยินดีที่สาธารณรัฐเกาหลีสนับสนุนการดำเนินการตามเอกสารมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on Indo-Pacific: AOIP) โดยมีผลลัพธ์ที่สำคัญของการประชุม ดังนี้
1. อาเซียน-เกาหลีมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ ในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ใน 3 ประเด็น ได้แก่ ความมั่นคงที่ยั่งยืนและความมั่นคงของมนุษย์ เศรษฐกิจที่ยั่งยืน และสังคมและวัฒนธรรมที่ยั่งยืน
2. อาเซียน-เกาหลีเห็นพ้องใช้ประโยชน์จากความเป็นหุ้นส่วนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติ ใน 3 ประเด็นสำคัญ การเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ การสร้างความเชื่อมโยงบนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนและการผสานความร่วมมือ โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่างๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค และการลดผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการเสริมสร้างความเชื่อมโยง
3. อาเซียน-เกาหลีเห็นพ้องใช้ประโยชน์จากโครงสร้างสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่เข้มแข็งและมีอาเซียนเป็นแกนกลาง ในการจัดการปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ โดยผลักดันกระบวนการหารือและเสริมสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีที่มีพลวัต และหวังว่า ทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และความตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน
4. อาเซียน-เกาหลีพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้ครอบคลุมสาขาต่างๆ มากขึ้น โดยในบริบทความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลี รัฐบาลทั้งสองได้ลงนามบันทึกความเข้าใจที่ครอบคลุมหลายด้าน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและครอบคลุมสาขาใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น