นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (9 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติการจัดตั้งทุนหมุนเวียน 3 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนสิ่งแวดล้อม โดยจัดตั้งกองทุนตามร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพชีวิตสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อให้เงินอุดหนุน หรือให้กู้ยืมในการจัดระบบบำบัด หรือกำจัดมลพิษ หรือดำเนินการในกรณีฉุกเฉินจากการรั่วไหล หรือการแพร่กระจายของมลพิษ หากมีปัญหาสิ่งแวดล้อมฉุกเฉินฉับพลัน สามารถนำเงินเหล่านี้แก้ไขปัญหาได้
2. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยจัดตั้งตามกฎหมายร่าง พ.ร.บ.เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและอาจารย์ ทั้งนี้ เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เห็นควรให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เสนอขอรับการจัดสรรตามความจำเป็นต่อไปและเป็นไปตามกำลังเงินของแผ่นดิน นอกจากนี้ เห็นควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายและหลักเกณฑ์วิธีการในการจัดสรรเงินสนับสนุนช่วยเหลือให้ชัดเจนไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน จากการดำเนินงานของหน่วยงานอื่น เช่น กยศ. เป็นต้น
3. กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบคุ้มครองทางสังคมอย่างครบวงจร สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ทั้งนี้ ควรกำกับการใช้จ่ายเงินกองทุนให้เกิดประสิทธิภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนและกำหนดหลักเกณฑ์การช่วยเหลือประชาชนในภาวะลำบากให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
2. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยจัดตั้งตามกฎหมายร่าง พ.ร.บ.เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูและอาจารย์ ทั้งนี้ เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี เห็นควรให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เสนอขอรับการจัดสรรตามความจำเป็นต่อไปและเป็นไปตามกำลังเงินของแผ่นดิน นอกจากนี้ เห็นควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายและหลักเกณฑ์วิธีการในการจัดสรรเงินสนับสนุนช่วยเหลือให้ชัดเจนไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน จากการดำเนินงานของหน่วยงานอื่น เช่น กยศ. เป็นต้น
3. กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบคุ้มครองทางสังคมอย่างครบวงจร สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ทั้งนี้ ควรกำกับการใช้จ่ายเงินกองทุนให้เกิดประสิทธิภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนและกำหนดหลักเกณฑ์การช่วยเหลือประชาชนในภาวะลำบากให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น