กรมวิชาการเกษตรแจงปรับแก้ ก.ม.คุ้มครองพันธุ์พืช มุ่งให้ประโยชน์เกษตรกร

นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้แจงกรณีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืช ว่า เป็นการปรับแก้กฎหมายที่ยึดผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นหลัก เกษตรกรไม่ได้เสียผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น เกษตรกรยังคงสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไปปลูกในฤดูต่อไปในพื้นที่ของตนเองได้โดยไม่มีโทษใด ๆ ส่วนการขยายการคุ้มครองจากส่วนขยายพันธุ์ไปถึงผลผลิตและผลิตภัณฑ์นั้น หมายถึง ขยายความคุ้มครองไปถึงเฉพาะผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ ที่เกิดจากส่วนขยายพันธุ์ที่ได้มาโดยมิชอบเท่านั้น แต่หากส่วนขยายพันธุ์นั้นได้มาอย่างถูกต้องแล้ว ผู้ผลิตก็มีสิทธิในผลิตผลและผลิตภัณฑ์นั้น

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันเจตนาที่จะใช้ประโยชน์จากส่วนขยายพันธุ์ที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ส่วนการปรับระยะเวลาคุ้มครองตามกลุ่มพืชจากเดิมพืชล้มลุก 12 ปี เป็น 20 ปี พืชไม้ผลไม้ยืนต้นจาก 17 เป็น 25 ปี และพืชให้เนื้อไม้จาก 27 เป็น 25 ปี นั้น เนื่องจากในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชกว่าจะได้พันธุ์ใหม่ที่ดีมีศักยภาพออกสู่ตลาด ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน เกษตรกร ประชาชนทั่วไป นักวิชาการ ซึ่งเป็นผู้ปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่และได้จดทะเบียนคุ้มครองก็จะได้รับผลประโยชน์จากการขยายระยะเวลาการคุ้มครองนี้ด้วยเช่นกัน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืชทางเว็บไซต์ ซึ่งเป็นขั้นตอนขั้นต้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นประกอบการเสนอต่อกระทรวงและคณะรัฐมนตรีตามลำดับต่อไป