นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล ที่ปรึกษาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รักษาการแทน รองผู้ว่าการ รฟม. เป็นประธานการจัดงาน "Smart Life by MRT Orange Line เชื่อมสายทาง สร้างคุณภาพชีวิต" เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี โดยมีหน่วยงานที่กี่ยวข้อง ทั้งตำรวจนครบาล บริษัทที่ปรึกษาโครงการเข้าร่วม
นายธีรพันธ์ ยืนยันว่า การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มปัจจุบันมีความคืบหน้า ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา คืบหน้าร้อยละ 1.4 และภายในเดือนกันยายน จะเร่งรัดการเข้าพื้นที่เขตการก่อสร้างภายในเมืองหลายจุด เพื่อทำการรื้อย้ายสาธารณูปโภคระหว่างการก่อสร้าง รวมทั้งประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ลดผลกระทบประชาชนผู้ใช้ทางมากที่สุด โดยเฉพาะถนนที่เป็นจุดวิกฤต เช่น รามคำแหง รวมทั้งการเตรียมแผนก่อสร้างที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและให้งานมีความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี หรือแล้วเสร็จปี 2566 เมื่อเปิดให้บริการจะถือเป็นเส้นทางระบบรถไฟฟ้าสำคัญ มีผู้ใช้บริการต่อวันสูงถึง 400,000 คน มีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง ไม่ว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีเหลือง และสายสีชมพู
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมส่งรายละเอียดโครงการให้ รฟม.กลับมาพิจารณาเพิ่ม โดยเฉพาะประเด็นโครงการนี้จะเปิดให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานโยธาและระบบเดินรถไปพร้อมกัน เพื่อสามารถลดภาระเงินลงทุนของงบประมาณ หากเอกชนพร้อมก็สามารถดำเนินการได้
ทางด้าน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ถนนที่คาดว่าจะวิกฤตช่วงก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี คือ ถนนรามคำแหง เนื่องจากเป็นถนนที่มีสถาบันการศึกษา สำนักงาน และโรงงานจำนวนมาก และเมื่อเริ่มก่อสร้างจะปิดจราจรหรือเบี่ยงเส้นทางบางจุด เพื่อให้เกิดความสะดวก กองบัญชาการตำรวจนครบาลจำเป็นต้องรักษาช่องจราจรไว้ฝั่งละ 3 ช่องจราจร สำหรับขาเข้าและขาออก ส่วนการบรรเทาปัญหาช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จะประสาน รฟม. และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ สิ่งสำคัญระหว่างปิดเส้นทางบางจุดอาจจะต้องรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และ รฟม. จะต้องประสานหน่วยงานอื่น เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถชัตเติลบัสรับผู้โดยสาร รวมทั้งการใช้บริการเรือด่วนคู่ขนานไปกับถนนรามคำแหงก็จะช่วยบรรเทาปัญหาได้
นายธีรพันธ์ ยืนยันว่า การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มปัจจุบันมีความคืบหน้า ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา คืบหน้าร้อยละ 1.4 และภายในเดือนกันยายน จะเร่งรัดการเข้าพื้นที่เขตการก่อสร้างภายในเมืองหลายจุด เพื่อทำการรื้อย้ายสาธารณูปโภคระหว่างการก่อสร้าง รวมทั้งประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ลดผลกระทบประชาชนผู้ใช้ทางมากที่สุด โดยเฉพาะถนนที่เป็นจุดวิกฤต เช่น รามคำแหง รวมทั้งการเตรียมแผนก่อสร้างที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและให้งานมีความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี หรือแล้วเสร็จปี 2566 เมื่อเปิดให้บริการจะถือเป็นเส้นทางระบบรถไฟฟ้าสำคัญ มีผู้ใช้บริการต่อวันสูงถึง 400,000 คน มีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง ไม่ว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีเหลือง และสายสีชมพู
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมส่งรายละเอียดโครงการให้ รฟม.กลับมาพิจารณาเพิ่ม โดยเฉพาะประเด็นโครงการนี้จะเปิดให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานโยธาและระบบเดินรถไปพร้อมกัน เพื่อสามารถลดภาระเงินลงทุนของงบประมาณ หากเอกชนพร้อมก็สามารถดำเนินการได้
ทางด้าน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ถนนที่คาดว่าจะวิกฤตช่วงก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี คือ ถนนรามคำแหง เนื่องจากเป็นถนนที่มีสถาบันการศึกษา สำนักงาน และโรงงานจำนวนมาก และเมื่อเริ่มก่อสร้างจะปิดจราจรหรือเบี่ยงเส้นทางบางจุด เพื่อให้เกิดความสะดวก กองบัญชาการตำรวจนครบาลจำเป็นต้องรักษาช่องจราจรไว้ฝั่งละ 3 ช่องจราจร สำหรับขาเข้าและขาออก ส่วนการบรรเทาปัญหาช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จะประสาน รฟม. และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ สิ่งสำคัญระหว่างปิดเส้นทางบางจุดอาจจะต้องรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และ รฟม. จะต้องประสานหน่วยงานอื่น เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถชัตเติลบัสรับผู้โดยสาร รวมทั้งการใช้บริการเรือด่วนคู่ขนานไปกับถนนรามคำแหงก็จะช่วยบรรเทาปัญหาได้
