พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า ในที่ประชุมได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) ครั้งที่ผ่านมา โดยเห็นชอบกำหนดพื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งอย่างเป็นระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 8 พื้นที่ โดยกรมทรัพยากรน้ำร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งทั้งประเทศพบว่า มีพื้นที่ 84.2 ล้านไร่ หรือ 26.5 % เป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 40.9 ล้านไร่ คิดเป็นร้อย 49 % ของพื้นที่ทั้งหมด โดยพื้นที่เสี่ยงอุกทภัยทั้งประเทศมีทั้งสิ้น 45.4 ล้านไร่ คิดเป็น 14 % ของพื้นที่ทั้งประเทศ และเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15.9 ล้านไร่ หรือ 35 % ของพื้นที่เสี่ยงอุกทกภัยทั้งประเทศ
ทั้งนี้ มีการกำหนดพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งอย่างเป็นระบบทั้งหมด 8 พื้นที่ครอบคลุม18 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จังหวัดในลุ่มน้ำเลยตอนล่าง ลุ่มน้ำเลยห้วยหลวง ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ลุ่มน้ำภูน้ำกัด ลุ่มชีตอนบน ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ลุ่มน้ำมูลตอนบน และลุ่มน้ำมูลตอนล่าง
นอกจากนี้ ตามการกำหนดพื้นที่บริหารจัดการ 8 พื้นที่ จำนวน 36 โครงการงบประมาณทั้งสิ้น 2104.59 ล้านบาท มีพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 72,031 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น 6.81 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร โดย ครม.เห็นชอบให้กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมทรัพยากรน้ำ เสนอโครงการที่มีความพร้อม และเร่งด่วน เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมปี 2560 อีก 348 โครงการ เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 8,820 ล้านบาท โดยจะมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ 449,700 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น107 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ มีการกำหนดพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งอย่างเป็นระบบทั้งหมด 8 พื้นที่ครอบคลุม18 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จังหวัดในลุ่มน้ำเลยตอนล่าง ลุ่มน้ำเลยห้วยหลวง ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ลุ่มน้ำภูน้ำกัด ลุ่มชีตอนบน ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ลุ่มน้ำมูลตอนบน และลุ่มน้ำมูลตอนล่าง
นอกจากนี้ ตามการกำหนดพื้นที่บริหารจัดการ 8 พื้นที่ จำนวน 36 โครงการงบประมาณทั้งสิ้น 2104.59 ล้านบาท มีพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 72,031 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น 6.81 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร โดย ครม.เห็นชอบให้กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมทรัพยากรน้ำ เสนอโครงการที่มีความพร้อม และเร่งด่วน เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมปี 2560 อีก 348 โครงการ เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 8,820 ล้านบาท โดยจะมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ 449,700 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น107 ล้านลูกบาศก์เมตร