นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานในพิธีทำบุญครบรอบ 76 ปี คล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ว่า ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกได้ยกระดับคุณภาพการให้บริการระบบขนส่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้าพัฒนาการ เช่น โครงการ TAXI OK และ TAXI VIP เพื่อยกระดับแท็กซี่ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย การบังคับให้รถติดตั้งระบบ GPS ในรถโดยสารสาธารณะ ควบคู่กับเป็นหน่วยงานกำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะ แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
ส่วนกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ หรือทีดีอาร์ไอ ศึกษาการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบว่า ยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของค่าโดยสารนั้น ยอมรับว่า ต้นทุนจะสูงกว่ารายได้ที่ ขสมก. ได้ เป็นเพราะ ขสมก. ได้ดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่เชื่อว่าหากมาตรการออกบัตรสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลังที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป จะมีการพิจารณาในเรื่องอัตราค่าโดยสารใหม่ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ขสมก. มีหนี้สินประมาณ 100,000 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นดำเนินการเกี่ยวกับไม่ให้ ขสมก. ขาดทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการศึกษา อุปสรรคในการปรับราคา รวมถึงการปรับปรุงเส้นทางเดินรถ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตั้งระบบ E-Ticket การรองรับตั๋วต่อตั๋วร่วมบนรถเมล์ ว่า ตามกำหนดภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จประมาณ 800 คัน และอีก 2,600 คัน จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปี 2561
ส่วนกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ หรือทีดีอาร์ไอ ศึกษาการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบว่า ยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของค่าโดยสารนั้น ยอมรับว่า ต้นทุนจะสูงกว่ารายได้ที่ ขสมก. ได้ เป็นเพราะ ขสมก. ได้ดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่เชื่อว่าหากมาตรการออกบัตรสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลังที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป จะมีการพิจารณาในเรื่องอัตราค่าโดยสารใหม่ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ขสมก. มีหนี้สินประมาณ 100,000 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นดำเนินการเกี่ยวกับไม่ให้ ขสมก. ขาดทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการศึกษา อุปสรรคในการปรับราคา รวมถึงการปรับปรุงเส้นทางเดินรถ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตั้งระบบ E-Ticket การรองรับตั๋วต่อตั๋วร่วมบนรถเมล์ ว่า ตามกำหนดภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จประมาณ 800 คัน และอีก 2,600 คัน จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปี 2561