บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 277 ในวันนี้ (6 ส.ค.) ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่องด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นางจันแดง คนสูง อายุ 56 ปี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า ตนและญาติๆ เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานีเพื่อมาเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องมากราบในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงทำงานหนักเพื่อประขาชนมาโดยตลอด แม้ตนจะเดินทางมาไกล ยอมรับว่ามีเหนื่อยบ้าง แต่เมื่อได้เข้ากราบพระบรมศพแล้ว หายเหนื่อยทันที เพราะตื้นตันใจที่ได้มากราบพระองค์ท่าน แม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้ว แต่พระองค์ท่านจะอยู่ในหัวใจของพวกเราเสมอ และรำลึกถึง
นางจันแดง กล่าวอีกว่า เราเห็นพระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตร พลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งให้กลับมามีความสมบูรณ์ สอนให้เราปลูกป่าในใจคน ตลอดทั้งการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งพระองค์ท่านทรงอุทิศพระวรกาย เสด็จไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตนซึ่งเป็นข้าราชการคนหนึ่งที่นำหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการทำงาน เราจึงต้องตั้งใจทำงาน บริการประชาชนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ด้าน นางอำไพ สำราญใจ อายุ 79 ปี กล่าวว่า มากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรกมาเมื่อวันที่ 15 เดือนที่แล้ว ครั้งนี้เดินทางมากับเพื่อนบ้านละแวกลาดพร้าวรวม 7 คน รู้สึกดีใจมาก อยากมากราบพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงดูแลประชาชนด้วยพระองค์เองมาอย่างยาวนานตลอดพระชนม์ชีพ แม้แต่น้ำท่วมท่านก็ทรงลงพื้นที่หาทางแก้ปัญหา บรรเทาทุกข์ของประชาชนด้วยพระองค์ นับเป็นความประทับใจที่ตราตรึงใจตัวเองอยู่เสมอ ส่วนตัวยังมีโอกาสน้อมนำคำสอนมาใช้หลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องการประหยัดอดออม พอเพียง หากมีโอกาสก็อยากเดินทางมากราบพระบรมศพอีก แต่เนื่องจากสามีป่วยเดินไม่ได้ต้องคอยดูแล จึงยากที่จะมีโอกาสเดินทางมากราบพระศพอีกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามแม้ไม่ได้มากราบพระบรมศพในจิตใจยังคงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เสมอ
นางจันแดง คนสูง อายุ 56 ปี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า ตนและญาติๆ เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานีเพื่อมาเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องมากราบในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงทำงานหนักเพื่อประขาชนมาโดยตลอด แม้ตนจะเดินทางมาไกล ยอมรับว่ามีเหนื่อยบ้าง แต่เมื่อได้เข้ากราบพระบรมศพแล้ว หายเหนื่อยทันที เพราะตื้นตันใจที่ได้มากราบพระองค์ท่าน แม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้ว แต่พระองค์ท่านจะอยู่ในหัวใจของพวกเราเสมอ และรำลึกถึง
นางจันแดง กล่าวอีกว่า เราเห็นพระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตร พลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งให้กลับมามีความสมบูรณ์ สอนให้เราปลูกป่าในใจคน ตลอดทั้งการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งพระองค์ท่านทรงอุทิศพระวรกาย เสด็จไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตนซึ่งเป็นข้าราชการคนหนึ่งที่นำหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการทำงาน เราจึงต้องตั้งใจทำงาน บริการประชาชนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ด้าน นางอำไพ สำราญใจ อายุ 79 ปี กล่าวว่า มากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรกมาเมื่อวันที่ 15 เดือนที่แล้ว ครั้งนี้เดินทางมากับเพื่อนบ้านละแวกลาดพร้าวรวม 7 คน รู้สึกดีใจมาก อยากมากราบพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงดูแลประชาชนด้วยพระองค์เองมาอย่างยาวนานตลอดพระชนม์ชีพ แม้แต่น้ำท่วมท่านก็ทรงลงพื้นที่หาทางแก้ปัญหา บรรเทาทุกข์ของประชาชนด้วยพระองค์ นับเป็นความประทับใจที่ตราตรึงใจตัวเองอยู่เสมอ ส่วนตัวยังมีโอกาสน้อมนำคำสอนมาใช้หลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องการประหยัดอดออม พอเพียง หากมีโอกาสก็อยากเดินทางมากราบพระบรมศพอีก แต่เนื่องจากสามีป่วยเดินไม่ได้ต้องคอยดูแล จึงยากที่จะมีโอกาสเดินทางมากราบพระศพอีกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามแม้ไม่ได้มากราบพระบรมศพในจิตใจยังคงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เสมอ
