นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีวัดพนัญเชิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชน หลังวัดแห่งนี้ตกอยู่ในสถานะวัดที่มีขบวนการทุจริตเรียกรับเงินอุดหนุน หรือ เงินทอน มากที่สุด 13 ล้านบาท จาก 12 วัด ที่ตกเป็นคดีความและวัดแห่งนี้ ถูกนางประนอม คงพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสมัยปี 2557-2558 ทำเรื่องเสนองบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งปลูกสร้างครั้งละ 10 ล้านบาท จำนวน 2 ครั้ง ก่อนจะทำการทุจริตรับผลประโยชน์ให้ทอนเงินไปยังบุคคลอื่น และจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะ และปฏิสังขรณ์วัด กว่า 60 ล้านบาทหรือไม่ และจะมีการตรวจสอบนางประนอมหรือไม่ ว่า ส่วนตัวเพิ่งได้ทราบข่าวจากสื่อ ที่วัดได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวานนี้
ส่วนกรณีของนายนพรัตน์ ได้เกษียณไปแล้ว ดังนั้นการดำเนินคดีเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ไม่ใช่การเอาผิดด้านวินัย เพราะการเอาผิดดังกล่าวสามารถทำได้เฉพาะข้าราชการที่อยู่ในตำแหน่งเท่านั้น และเรื่องการเอาผิดทางวินัยต้องถาม คนที่อยู่เท่านั้นจึงจะดำเนินการในเรื่องของวินัยต้องสอบถาม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ส่วนจะสั่งการไปหรือไม่ว่าจะให้นางประนอม ถูกพักราชการไปก่อน เป็นเรื่องระเบียบของทางราชการเป็นเรื่องของการปกครอง คือผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอำนาจเต็มที่ก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น
ส่วนกรณีของนายนพรัตน์ ได้เกษียณไปแล้ว ดังนั้นการดำเนินคดีเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ไม่ใช่การเอาผิดด้านวินัย เพราะการเอาผิดดังกล่าวสามารถทำได้เฉพาะข้าราชการที่อยู่ในตำแหน่งเท่านั้น และเรื่องการเอาผิดทางวินัยต้องถาม คนที่อยู่เท่านั้นจึงจะดำเนินการในเรื่องของวินัยต้องสอบถาม พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ส่วนจะสั่งการไปหรือไม่ว่าจะให้นางประนอม ถูกพักราชการไปก่อน เป็นเรื่องระเบียบของทางราชการเป็นเรื่องของการปกครอง คือผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอำนาจเต็มที่ก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น